Phonics คืออะไรและทุกสิ่งที่ผู้ปกครองจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับ Phonics

บทความเกี่ยวกับ Phonics นี้จะช่วยให้คุณค้นพบวิธีการเรียนภาษาอังกฤษยุคใหม่ที่น่าสนใจ สร้างพื้นฐานเบื้องต้นเกี่ยวกับการออกเสียง และการสะกดคำให้เด็ก - Phonics 

อังกฤษ Phonics หรือ Phonics เป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในหลาย ๆ ประเทศ โดยเฉพาะในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเช่น อังกฤษ สหรัฐอเมริกา ... ช่วยให้เด็กพัฒนาทั้ง 4 ทักษะในการ ฟัง-พูด-อ่าน-เขียน 

แม้ว่าจะเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในโลก และได้พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพเมื่อเวลาผ่านไป ในประเทศไทย Phonics ยังเป็นสิ่งที่แปลกใหม่ และไม่มีข้อมูล-เอกสารจำนวนมากสำหรับการค้นหา ในบทความนี้ Monkey ได้รวบรวมและสรุปข้อมูลที่จำเป็นและถูกต้องที่สุดเกี่ยวกับ Phonics หวังว่าสามารถให้ภาพรวมที่สมตามพจนานุกรมของ Oxford Phonics (แปลโดยประมาณ: สัทศาสตร์) เป็นวิธีการสอนให้ผู้คนอ่านผ่านเสียงที่ตัวอักษรเป็นตัวแทนบูรณ์ที่สุดเพื่อช่วยให้ผู้ปกครองเข้าใจได้ดีขึ้น เกี่ยวกับ Phonics เลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม และวิธีการใช้สอดคล้องให้ดีที่สุด

ผู้ปกครองโปรดร่วมกับ Monkey ค้นพบ Phonics กันเถอะ

 1. วิธีการออกเสียง Phonics 

ตามพจนานุกรมของ Oxford Phonics (แปลโดยประมาณ:สัทศาสตร์) เป็นวิธีการสอนให้คนอ่านผ่านเสียงที่ตัวอักษรเป็นตัวแทน สมบูรณ์มากขึ้นจากมุมมองทางวิทยาศาสตร์การออกเสียงภาษาอังกฤษหรือ Phonics เป็นวิธีการเรียนรู้ภาษาอังกฤษผ่านระบบสัทศาสตร์เพื่อช่วยพัฒนาทักษะต่างๆดังนี้ Sound-to-Sound (เมื่อฟังหนึ่งคำศัพท์ผู้เรียนสามารถแยกเสียงในนั้นได้), Spelling-to-Sound (ผู้เรียนรู้จักการสะกดของคำหนึงเพื่อให้สามารถอ่านคำในตระกูลคำเดียวกันได้), Sound-to - Spelling (เมื่อฟังคำหนึงผู้อ่านสามารถเขียนตามคำนั้นได้) ซึ่งหลักๆคือการสะกดภาษาอังกฤษ อย่างไรก็ตามคำจำกัดความนี้ค่อนข้าง "วิชาการ" และยากที่จะจดจำสำหรับผู้ปกครองของเราส่วนใหญ่

ตามความเข้าใจที่พบบ่อยที่สุดในปัจจุบัน Phonics เป็นวิธีการสอนการสะกดคำภาษาอังกฤษ เด็ก ๆ สามารถเรียนรู้ภาษาอังกฤษที่คล้ายกับภาษาไทยได้โดยการสะกดแต่ละตัวอักษร จากนั้นจึงรวมเป็นคําศัพท์เดียวตัวกันเพื่อสะกดคำ ผู้ปกครองสามารถเข้าใจและจดจำเกี่ยวกับ Phonics ด้วยวิธีที่ง่ายที่สุด วิธีการเรียนนี้มีผลประโยชน์มากกว่าวิธีการเรียนเก่าแก่ Phonics เป็นวิธีการเรียนภาษาอังกฤษผ่านระบบการสัทศาสตร์ เพื่อช่วยให้เด็ก ๆ อ่านคำศัพท์ภาษาอังกฤษได้ง่ายตามกฎการสะกดคำ วิธี Phonics เป็นที่นิยมอย่างมากในการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในหลาย ๆ ประเทศโดยเฉพาะในประเทศที่พูดภาษาอังกฤษ เช่น อังกฤษ,สหรัฐอเมริกา,ออสเตรเลีย,สิงคโปร์...วิธี Phonics สร้างขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือนักเรียน เข้าใจการอ่าน เขียน สะกดคำต่างๆในภาษาอังกฤษอย่างเป็นระบบ ตามลำดับขั้นตอน เพื่อให้สามารถอ่านออกเสียงได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน

เด็ก ๆ เมื่อได้เรียนรู้โฟนิคส์และเข้าใจกฎพื้นฐานของการสัมผัสคำคล้องจองสามารถมองเห็นหน้าอักษรของคำและออกเสียงคำใหม่ได้อย่างถูกต้อง แม้ว่าพวกเขาจะเข้าใจความหมายของคำนั้นหรือไม่ แต่ไม่ต้องได้ยินเสียงหรือไม่ก็ตามการอ่านตัวอย่าง นอกจากนี้ Phonics ยังสนับสนุนการเรียนการเขียนภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต เด็ก ๆ สามารถได้ยินและออกเสียงคำที่ลงท้ายด้วยอย่างถูกต้อง เขียนได้ถูกต้องและอ่านได้ดี

Phonics เป็นวิธีการที่ใช้ยอดนิยมในการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในหลายประเทศทั่วโลก
ได้ประเมินเป็นขั้นตอนสำคัญในการสอนภาษาอังกฤษ Phonics แสดงให้เห็นถึงข้อดีที่โดดเด่น นั้นคือที่เด็ก ๆ เรียนรู้เสียงที่สอดคล้องกับตัวอักษร จากนั้นพวกเขาสามารถออกเสียงและอ่านคำศัพท์ใหม่ ๆ ได้โดยไม่ต้องจำการออกเสียงของแต่ละคำ Phonics ไม่ได้บังคับให้เด็กเรียนด้วยวิธีท่องจำการออกเสียงคำศัพท์ใหม่ ๆ แต่จะให้เรียนรู้กฎการออกเสียง เพื่อให้พวกเขาจะไม่สับสนเมื่อคุณครูผู้ปกครอง ... แต่ละคนอ่านคำในรูปแบบที่แตกต่างกันและไม่แน่ใจ วิธีใดจะอ่านโดยที่ถูกต้อง ตอนนั้นกฎการออกเสียงจะช่วยให้เด็กค้นพบการอ่านที่ดีที่สุด

ตัวอย่าง ด้วย Phonics เด็ก ๆ จะได้สอนคำว่า "a" ในภาษาอังกฤษเรียกว่า / ei / แต่ "a" ใน "cat" (ตัวแมว) ออกเสียง / ae / ใน "baby" (เด็ก) ออกเสียง / ei / ใน "father" จะออกเสียงว่า / a /ฯ

ดังนั้นเพียงด้วยตัวเดียวอักษร "a" แต่มีหลายวิธีการออกเสียงมากเมื่อใส่ในหลายคำที่ต่างกัน ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ ในเมื่อไม่มี Phonics ผู้ปกครองจะไม่รู้วิธีสอนอย่างไรให้ลูกออกเสียงอย่างถูกต้องและไม่รู้ตัวเองอ่านถูกหรือยัง (วิธีเดียวคือค้นหาพจนานุกรมและฟังแล้วอ่านตามด้วยคำศัพท์ในพจนานุกรม)

สำหรับวิธีการเรียนกับ Phonics เมื่อเด็กจดจำตารางการออกเสียงของตัวอักษรภาษาอังกฤษได้แล้ว (เรียกว่า Phonics Alphabet) เด็กๆจะสามารถออกเสียงมาตรฐานคำง่ายๆทั้งหมดด้วยโครงสร้าง CVC (สระ - พยัญชนะ - พยัญชนะ) เช่น cat (kat) bat (b-a-t) ... ดังนั้นเด็กๆ จะรู้สึกเข้าใจง่ายและออกเสียงภาษาอังกฤษได้ง่ายมาก

2. ทำไมต้องให้เด็กเรียน Phonics

พื้นฐานของการฟังและพูดภาษาอังกฤษได้ดีและเชี่ยวชาญเริ่มต้นด้วยการออกเสียงและอ่านอย่างคล่องแคล่ว ดังนั้นการออกเสียงที่ถูกต้องจึงมีความสำคัญมาก - เป็นข้อกำหนดเบื้องต้นช่วยให้ทักษะที่เหลือมีการพัฒนายิ่งขึ้น การออกเสียงมาตรฐานช่วยให้เด็กในการทักษะพูดและฟังได้อย่างดีขึ้น การฟังและการพูดในเวลาเดียวกันเป็นสองทักษะพื้นฐานที่มีความสามารถสูงสุดในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นการสร้างพื้นฐานที่มั่นคงสำหรับการเรียนรู้การอ่านและการเขียนที่ดี ช่วยให้เด็ก ๆ พัฒนาทักษะทั้ง 4 ด้านในการฟัง - พูด - อ่าน - เขียน

ดังนั้นการเรียนกับ Phonics จึงเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในขั้นตอนการเรียนภาษาอังกฤษ (โดยเฉพาะการเรียนรู้ด้วยตนเอง) Phonics เป็นพื้นฐานเบื้องต้นช่วยให้เด็ก ๆ สามารถออกเสียงและอ่านได้อย่างถูกต้องด้วยตนเองโดยไม่ต้องขึ้นอยู่กับการออกเสียงด้วยทางอารมณ์หรืออัตนัยของครูมากเกินไป (ถึงว่าจะออกเสียงตามภาษาอังกฤษ - อังกฤษ หรืออังกฤษ - อเมริกัน ... )

3. เมื่อใดควรสอน Phonics

ในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ เด็ก ๆ จะได้เรียนกับ Phonics ตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ในโรงเรียนอนุบาลเด็ก ๆ มักจะสอนการออกเสียงพยัญชนะ (ทุกตัวอักษรยกเว้นสระ a, e, i, o, u) โดยเด็กนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 1 และ 2 จะได้สอนการออกเสียงตัวอักษร สัมผัสคำคล้องจอง และส่วนของคำทั้งหมด (เช่น "ing" และ "ed") เด็กฝึกอ่านและสะกดคำที่ประกอบด้วยตัวอักษรและคำคล้องจอง นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มักจะทบทวนและฝึกฝนทักษะการออกเสียง Phonics ที่ได้เรียนรู้เพื่อการสะกดคำและการอ่านข้อความอย่างราบรื่น

โดยทั่วไปวิธีการ Phonics จะมีประสิทธิภาพที่สุดเมื่อสอนเด็กในชั้นอนุบาลหรือชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ในไทยผู้ปกครองควรให้เด็ก ๆ ทำความคุ้นเคยกับ Phonics ตั้งแต่อายุ 4 ขวบเพราะตั้งแต่ 4-8 ขวบ เด็กสามารถได้ฝังและแยกแยะได้ด้วยหูเสียงเดียวการพูดซ้ำ ๆ ที่เด็ก ๆ ได้ยินในชีวิต และมีความไวในการอ่านและเขียนเป็นพิเศษ ในเวลานี้ผู้ปกครองควรสังเกตความไวต่อตัวอักษรของบุตรหลาน เมื่อเห็นว่าบุตรหลานสนใจตัวอักษรมาก สนใจกับการอ่าน ผู้ปกครองสามารถนำวิธีการเรียนรู้แบบ Phonics ไปใช้กับบุตรหลานโดยเร็วที่สุด เป็นการดีที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เด็ก ๆ คุ้นเคยกับการออกเสียงภาษาอังกฤษแบบดั้งเดิม ซึ่งจะทำให้ฝึกวิธี Phonics ได้เจอยากลำบากขึ้น นอกจากนี้การสอน Phonicsให้กับเด็ก ๆ ตามขั้นตอนการเรียนที่เฉพาะเจาะจง และเป็นระบบนั้นมั่นใจได้ว่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่าการสอนโดยไม่มีหรือไม่มีการสอนการออกเสียง

4. หลักสูตร Phonics และ ขั้นตอนการเรียน

ปัจจุบันการเรียนการสอนโดยใช้วิธี Phonics ยังค่อนข้างใหม่และเผชิญกับข้อ จำกัด หลายประการในไทย เนื่องจากไม่มีหลักสูตรการศึกษาที่ถูกต้องและวิธีการสื่อสารที่สร้างความสนใจในการเรียนรู้ในระยะยาวให้กับเด็ก

ด้วยความปรารถนาที่จะนำหลักสูตร Phonics ที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพที่เหมาะสมกับวัยและความสามารถของเด็ก Monkey ได้สร้าง Monkey Phonics (คาดว่าจะเปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ 2020) - พัฒนาบนพื้นฐานของ Synthetic Phonics (การจับคู่เสียง - การสะกดโดยภาพรวม)- เป็นโปรแกรมที่แนะนำอย่างกว้างขวางโดยรัฐบาลอังกฤษ ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา โดยการเรียนการสอนภาษาอังกฤษให้กับเด็กเล็กเพื่อเป็นวิธีการสอน / เรียนรู้การอ่าน  การจัดเตรียม Monkey Phonics - ฟรีอย่างสมบูรณ์ใน Monkey Stories - แอปพลิเคชันช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษทั้ง 4 ด้านในการฟัง - พูด - อ่าน - เขียนสำหรับเด็ก - เป็นความพยายามของผู้ก่อตั้งและทีมงาน Monkey Thailand  ในการจัดทำหลักสูตรซึ่งเป็นขั้นตอนที่ครอบคลุมครบถ้วนปรับปรุงและสมบูรณ์ที่สุดสำหรับผู้ปกครองและเด็ก ๆ เพื่อให้ครอบครัวสามารถมี Monkey ร่วมเดินทางไปกับพวกเขาในเส้นทางการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของพวกเขาได้อย่างมั่นใจ ผู้ปกครองที่ใช้ Monkey Stories อยู่แล้วหรือว่าผู้ปกครองคนไหนที่ซื้อ Monkey Stories ใหม่จะสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ลงทะเบียนกับ Monkey Stories เพื่อเพื่อเรียนรู้ Monkey Phonics ได้ที่ http://bit.ly/36GFrzO