วิธีการศึกษาประถมวัยสำหรับเด็กตั้งแต่แรกเกิดใน Monkey Junior

ได้รับรู้เป็นโปรแกรมเดียวที่มีเนื้อหาการเรียนรู้ภาษาอังกฤษสำหรับเด็กอายุตั้งแต่แรกเกิด Monkey Junior ได้ใช้วิธีการศึกษาขั้นสูงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการเรียนรู้ของเด็ก ด้วยการผสมผสานวิธีการที่ทันสมัยและวิทยาศาสตร์ Monkey Junior ไม่เพียงแต่ช่วยให้เด็กคุ้นเคยกับภาษาอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ยังพัฒนาทักษะที่จำเป็นอย่างครอบคลุมตั้งแต่อายุยังน้อย สร้างพื้นฐานที่มั่นคงสำหรับการพัฒนาในอนาคต ด้านล่างคือวิธีการที่เป็นหลัก:

วิธีสอนอ่านแบบจำทั้งคำ (Whole Words)

วิธีสอนอ่านแบบจำทั้งคำเป็นวิธีการเรียนรู้คำศัพท์ผ่านการจำคำท่ีเขียนและภาพที่เป็นตัวแทนความหมายของคำพร้อมกับเสียงของคำ วิธีนี้จะได้ผลดีโดยเฉพาะกับเด็กเล็ก เมื่อสมองซีกขวาอยู่ในกระบวนการพัฒนาอย่างแข็งแกร่ง และการเรียนรู้ผ่านภาพดำเนินได้ง่ายอย่างธรรมชาติ การแนะนำคำโดยไม่ต้องแยกตัวอักษรแต่ละตัวให้กับเด็กจะคล้ายกับการแนะนำรูปภาพ เด็กไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในการเขียนก็จดจำวิธีเขียนคำศัพท์นั้นได้

วิทยาศาสตร์พิสูจน์ว่าเมื่อเด็กได้สัมผัสกับวิธีนี้เป็นระยะเวลาพอสมควร เด็กจะพัฒนากฎการสะกดและการออกเสียงคำศัพท์ใหม่ได้โดยการจำคำที่มีจำนวนกำหนด

Monkey Junior ใช้วิธีสอนอ่านแบบจำทั้งคำที่ได้รับความนิยมและผ่านการพิสูจน์อย่างหนึ่งในโลก: วิธีแลกบัตรคำตามหลัก - Glenn Doman

วิธีแลกบัตรคำตามหลักของ Glenn Doman

วิธี Glenn Doman ได้สร้างขึ้นโดยศาสตราจารย์ Glenn Doman - ผู้บุกเบิกการพัฒนาทางปัญญาของเด็ก ผู้เขียนหนังสือ Early Education and Genius (การศึกษาประถมวัย และ อัจฉริยะ) จำนวน 5 เล่ม รวมถึงหนังสือ "Teaching Children to Read Early" (การสอนเด็กอ่านตั้งแต่เน่น)

Glenn Doman แนะนำวิธีการสอนผ่าน Flashcards (การเรียนรู้คำศัพท์) และ Dot card (การเรียนรู้คณิตศาสตร์) โดยเฉพาะ Monkey Junior เลือกใช้ Flashcards ในแต่ละบทเรียน ผู้ปกครองจะพบส่วน Flashcard หลังเกม Multisensory + เกมทบทวน หรือ Slideshow + เกมวิจารณ์สำหรับภาษาอังกฤษ-อเมริกัน และอยู่หลังส่วน Multisensory (พหุประสาทสำผัส) สำหรับภาษาประเภทอื่น

Monkey Junior ใช้วิธี Glenn Doman ในมาตรฐานเนื้อหาต่อไปนี้:

คำในบทเรียนอยู่ในหัวข้อเดียวกัน
ขนาดตัวอักษรมีขนาดใหญ่และหนา
รูปภาพและวิดีโอมีสีสันสดใสและน่าดึงดูด
ภาพและคำแยกจากกัน โดยไม่ต้องเพิ่มภาพเพิ่มเติมเพื่อหลีกเลี่ยงการงุนงงเมื่อเด็ก“อ่านแบบจำทั้งคำ"
การทำซ้ำเนื้อหาการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ
เวลาในการสลับการ์ดรวดเร็วสูงสุด 1 วินาทีเพื่อเพิ่มความสามารถในการสมาธิของเด็กและกระตุ้นการพัฒนาสมอง

วิธีการเรียนรู้แบบพหุสัมผัสของ Dr. Robert Titzer (สหรัฐอเมริกา)

วิธีการเรียนรู้แบบพหุสัมผัสได้รับการพัฒนาโดย Dr. Robert C. Titzer - ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาสำหรับเด็กในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ดังนั้นการใช้พหุสัมผัสจึงได้กำหนดให้เป็นวิธีการศึกษาที่ใช้ประสาทสัมผัสหลายอย่างในเวลาเดียวกัน เพื่อให้เด็กสามารถใช้และพัฒนาประสาทสัมผัสไปพร้อมๆ กัน

เมื่อใช้ Monkey Junior เด็กจะได้ยินการออกเสียงของเจ้าของภาษาและเสียงคำศัพท์ที่เรียนรู้ (เช่น เสียงสุนัขเห่า เสียงเครื่องยนต์เครื่องบิน เสียงลมพัด) เด็กได้ดูคำศัพท์ที่มีภาพและวิดีโอที่บรรยายอย่างชัดเจนและถูกต้อง สัมผัสได้โดยตรงผ่านเกมแบบโต้ตอบในโปรแกรม

การผสมผสานที่ราบรื่นและมีชีวิตชีวานี้ส่งประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นซึ่งช่วยให้เด็กพัฒนาพหุสัมผัสไปพร้อมกันและบรรลุประสิทธิภาพการเรียนรู้สูงสุด

การเรียนรู้ผ่านเกม

การเรียนรู้ผ่านเกมเป็นวิธีที่นักการศึกษาผสมผสานความรู้และทักษะที่ต้องการถ่ายทอดให้เป็นเกมที่มุ่งเน้น

ด้วย Monkey Junior โปรแกรมทั้งหมดได้รับการออกแบบในรูปแบบของเกมการศึกษา แต่ละบทเรียนมีกิจกรรม 6 - 8 กิจกรรม และไม่มีกิจกรรมใดที่นำเสนอในรูปแบบการบรรยายที่เข้มงวดและน่าเบื่อหน่าย แต่มีกิจกรรมเกมเชิงโต้ตอบที่หลากหลายที่กระตุ้นการคิดและความสนใจในการเรียนรู้ของเด็กตลอดกระบวนการเรียนรู้

วิธีเรียนรู้ผ่านมัลติมีเดีย (Multimedia-based Learning)

การเรียนรู้ผ่านมัลติมีเดียเป็นวิธีการใช้สื่อการเรียนรู้ที่หลากหลาย เช่น รูปภาพ เพลง วีดีโอ ฯลฯ เพื่อช่วยให้เด็กซึมซับความรู้และทักษะอย่างเป็นธรรมชาติ แทนที่จะสอนโดยใช้วิธีการแบบเดิม เมื่ออายุยังน้อย เด็กจะอยากรู้อยากเห็นและชอบเล่นเกมที่น่าสนใจ ดูวิดีโอ หรืออ่านเรื่องราว ด้วยการใช้มัลติมีเดียที่กล่าวมาข้างต้น เด็กจะเข้าใจการออกเสียง คำศัพท์ และรูปแบบประโยคในบริบทต่างๆ ได้ง่าย และจดจำความรู้ได้ดีขึ้น

นอกจากกิจกรรมเกมเชิงโต้ตอบที่น่าสนใจพร้อมภาพและวิดีโอที่สดใสแล้ว หลักสูตร Monkey Junior ระดับ 1 - 5 ยังมีสื่อการเรียนรู้ประเภทอื่นๆ อีกมากมาย เช่น เพลง บทสนทนา เรื่องราว ฯลฯ ออกแบบมาตามแต่ละหัวข้อโดยเฉพาะ ช่วยให้เด็กเรียนรู้คำศัพท์ ประโยค และบริบท พร้อมทั้งฝึกการอ่านเพื่อทำความเข้าใจ

วิธีการสะกดคำภาษาอังกฤษ (Phonics)

Phonics เป็นวิธีการสอนการอ่าน-เขียนภาษาอังกฤษด้วยวิธีของคนพื้นฐาน คล้ายกับวิธีที่คนไทยเรียนภาษาไทย เมื่อเรียน Phonics เด็กจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับเสียงและการเชื่อมโยงเสียง (การสะกดคำ) เพื่อสร้างคำที่สมบูรณ์และถูกต้อง (กระบวนการ decoding) และช่วยให้เด็กฝึกฟัง เขียนตัวอักษรที่ถูกต้อง ( กระบวนการ encoding)

วิธี Phonics - สัทศาสตร์ภาษาอังกฤษจะสอนให้เด็กรวมเสียงของตัวอักษรเพื่อออกเสียงคำศัพท์ได้อย่างถูกต้อง ช่วยให้เด็กอ่าน-เขียนคำศัพท์ใหม่ได้อย่างสมบูรณ์โดยไม่ต้องมีผู้แนะนำ ผ่านการฝึกฝนทักษะและการใช้กฎการออกเสียง เด็กสามารถจดจำคำศัพท์ได้ดีขึ้น และสามารถเดาการออกเสียง/การสะกดคำได้โดยไม่ต้องขึ้นอยู่อย่างร้อยเปอร์เซ็นต์กับความจำทั้งหมด

เสียง Phonis ในหลักสูตร Monkey Junior ได้สร้างขึ้นตามโปรแกรม Jolly Phonics และได้ขยายออกไปเพื่อรวมเสียงคู่และเสียงสาม เสียงจะได้บูรณาการเข้ากับหลักสูตรตั้งแต่ระดับพื้นฐานจนถึงขั้นสูง: เสียงเดี่ยว - เสียงสระประสม - การเชื่อมโยงเพื่ออ่านคำศัพท์ในภาษาอังกฤษ ช่วยให้เด็กเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างตัวอักษรและเสียงได้อย่างชัดเจน

วิธีการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร (Communicative Language Teaching)

การสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร (CLT) – วิธีการสอนภาษาเพื่อการสื่อสารได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในวิธีการสอนภาษาอังกฤษที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ด้วยการมุ่งเน้นการใช้ภาษาในสถานการณ์จริงและการสื่อสารในชีวิตประจำวัน เด็กสามารถใช้ความรู้ทางด้านภาษาได้อย่างรวดเร็ว เพลิดเพลินกับการใช้ทักษะทางภาษาใหม่ และได้มีความมั่นใจเมื่อสื่อสารกับผู้อื่น วิธีการนี้ช่วยให้เด็กพัฒนาทักษะการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากสามารถใช้ไวยากรณ์ คำศัพท์ และโครงสร้างประโยคที่ถูกต้องในบริบทต่างในชีวิตจริง ช่วยให้เด็กมีความยืดหยุ่นเพียงพอที่จะปรับตัวในสถานการณ์ต่างๆ

หลักสูตร Monkey Junior มอบบทสนทนาที่เน้นการสื่อสาร ซึ่งประกอบด้วยคำศัพท์และประโยคที่ได้แนะนำไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อช่วยให้เด็กได้ฝึกการสื่อสารในสถานการณ์รายและเอียด ที่ใกล้เคียงกับชีวิตประจำวัน

ด้วยวิธีการศึกษาที่ได้กล่าวถึงด้านบน Monkey Junior สัญญาว่าจะนำรากฐานที่มั่นคงให้กับเด็กๆ ตั้งแต่แรกเกิด ช่วยให้เด็กๆ พัฒนา ลองลงทะเบียนใช้แอพ Monkey Junior เลย เพื่อเริ่มกระบวนการช่วยลูกเรียนภาษาอังกฤษที่น่าสนใจ และมีประสิทธิภาพมากขึ้นเลยค่ะคุณพ่อคุณแม่