วิธีออกเสียงเสียง 'd' /d/
เคล็ดลับการเรียนรู้ (TH)

วิธีออกเสียงเสียง 'd' /d/

การปรึกษาบทความ:

Hoàng Mỹ Hạnh

Hoàng Mỹ Hạnh

Thạc sĩ Ngôn ngữ - Chuyên gia Giáo dục sớm

ผู้เขียน: Hoàng Hà

วันที่อัปเดต: 02/10/2025

เนื้อหาหลัก

การออกเสียงอย่างถูกต้องเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพ และใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนหรือการทำงานได้ดี เพื่อที่จะพูดภาษาอังกฤษได้ดี ผู้เรียนจำเป็นต้องเข้าใจกฎการออกเสียงตามสัทอักษรภาษาอังกฤษ IPA ซึ่งประกอบด้วยเสียงสระ (vowel sounds) 20 เสียง และเสียงพยัญชนะ (consonant sounds) 24 เสียง ในบทความนี้ ผู้เขียนจะแนะนำวิธีออกเสียงตัว d ในภาษาอังกฤษอย่างถูกต้องที่สุด

วิธีการออกเสียง 'd' อย่างถูกต้องในภาษาอังกฤษ

  • ขั้นตอนที่ 1: หุบฟันบนและล่างให้แน่น

  • ขั้นตอนที่ 2: ยกปลายลิ้นขึ้นและสัมผัสกับรากฟันของฟันหน้าบน

  • ขันตอนที่ 3: ลดปลายลิ้นลงเพื่อออกเสียง /d/

→ นี่เป็นเสียงที่มีการสั่นสะเทือน (voiced sound) ดังนั้น เมื่อออกเสียง ผู้เรียนจะไม่รู้สึกว่ามีลมหายใจพุ่งเข้าไปในฝ่ามือ

 

แหล่งข้อมูล:  English Language Club

7 กฎการออกเสียง 'd' ที่ถูกต้องที่สุด

ตัวอักษร D จะมีหลายกฎการออกเสียงที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งในคำและการรวมกับเสียงอื่น ๆ แต่โดยทั่วไปแล้วไม่ยากเกินไปที่จะจดจำสำหรับผู้เรียนภาษาอังกฤษ
การเข้าใจกฎเหล่านี้จะช่วยให้คุณออกเสียงคำที่มีลงท้ายด้วย "ed" ได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น
มาค้นหากฎการออกเสียง 'd' ที่ถูกต้องกันเถอะ!

1. กฎที่ 1: ตัวอักษร D จะออกเสียงเป็น /d/ เมื่อมันอยู่ที่ต้นพยางค์

ตัว D จะออกเสียงเป็น /d/ เมื่อมันอยู่ที่ต้นพยางค์ โดยมีตัวอย่างดังนี้:

  • Adorable (adj): /əˈdɔː.rə.bəl/: น่ารัก

  • Destination (n): /ˌdes.tɪˈneɪ.ʃən/: จุดหมาย

  • Decorate (v): /ˈdek.ə.reɪt/: ตกแต่ง

  • Dance (v): /dɑːns/: เต้น, เต้นรำ

  • Daughter (n): /ˈdɔː.tər/: ลูกสาว

  • Diagram (n): /ˈdaɪ.ə.ɡræm/: แผนภาพ

  • Difficult (adj): /ˈdɪf.ɪ.kəlt/: ยาก

  • Donate (v): /dəʊˈneɪt/: บริจาค

  • Duplicate (v): /ˈdʒuː.plɪ.keɪt/: ทำซ้ำ

  • Decade (n): /ˈdek.eɪd/: ทศวรรษ

2. กฎที่ 2: เมื่อมีตัวอักษร DD มักจะออกเสียงเป็น /d/

การออกเสียง /d/ จะใช้ในกรณีที่มีตัวอักษร dd อยู่ในคำ ตัว dd จะออกเสียงเป็น /d/ เช่นกัน
ตัวอย่างคำที่มี dd และออกเสียงเป็น /d/:

  • Add (v): /æd/: เพิ่ม

  • Addict (v): /ˈæd.ɪkt/: ติด, เสพติด

  • Additional (adj): /əˈdɪʃ.ən.əl/: เพิ่มเติม

  • Address (n): /əˈdres/: ที่อยู่

  • Bladder (n): /ˈblæd.ər/: กระเพาะปัสสาวะ

  • Caddie (n): /ˈkæd.i/: คนหามไม้กอล์ฟ

  • Ladder (n): /ˈlæd.ər/: บันได

  • Middle (n): /ˈmɪd.əl/: กลาง, จุดศูนย์กลาง

  • Oddity (n): /ˈɒd.ɪ.ti/: ความแปลกประหลาด

  • Pudding (n): /ˈpʊd.ɪŋ/: พุดดิ้ง

3. กฎที่ 3: เมื่อหลังตัว D เป็น U จะออกเสียง DU เป็น /dʒ/

เมื่อ D ตามด้วย U การออกเสียง d จะมักจะเป็น /dʒ/

วิธีการออกเสียง /dʒ/:

  • ขั้นตอนที่ 1: ยืดริมฝีปากให้กลมเล็กน้อยและยื่นไปข้างหน้าเล็กน้อย

  • ขั้นตอนที่ 2: หุบฟันเบา ๆ

  • ขั้นตอนที่ 3: ยกปลายลิ้นขึ้นและสัมผัสด้านหลังฟันบน

  • ขั้นตอนที่ 4: เป่าลมเบา ๆ พร้อมกับเสียง "ch" ในภาษาเวียดนาม

ตัวอย่างคำที่มีการออกเสียง d เป็น /dʒ/:

  • Graduate (v): /ˈɡrædʒ.u.ət/: จบการศึกษา

  • Procedure (n): /prəˈsiː.dʒər/: กระบวนการ

  • Module (n): /ˈmɒdʒ.uːl/: โมดูล

4. กฎที่ 4: เมื่อตัว d อยู่ในคำกริยาช่องที่สองที่ลงท้ายด้วย -ed ตัว d จะออกเสียงเป็น /t/ หากพยางค์ก่อน -ed เป็นเสียงที่ไม่มีการสั่น (voiceless sounds) เช่น /p/, /k/, /θ/, /f/, /s/, /ʃ/, /tʃ/

เสียง /d/ จะออกเสียงเป็น /t/ เมื่อคำกริยาช่องที่สองลงท้ายด้วย -ed และพยางค์ก่อนหน้านั้นเป็นเสียงไม่มีเสียง
ตัวอย่างคำ:

  • Popped /pɑːpt/: แตก

  • Kicked /kɪkt/: เตะ

  • Frothed /frɑːθt/: มีฟอง

  • Laughed /lɑːft/: หัวเราะ

  • Missed /mɪst/: พลาด

  • Brushed /brʌʃt/: แปรง

  • Watched /wɑːtʃt/: ดู

5. กฎที่ 5: เมื่อคำกริยาช่องที่สองลงท้ายด้วย -ed และพยางค์ก่อนหน้าเป็นเสียง /t/ หรือ /d/ จะออกเสียง -ed เป็น /ɪd/

เสียง d จะออกเสียงเป็น /ɪd/ เมื่อคำกริยาช่องที่สองมีเสียง /t/ หรือ /d/ นำหน้า
ตัวอย่างคำ:

  • Added /ˈædɪd/: เพิ่ม

  • Decided /dɪˈsaɪdɪd/: ตัดสินใจ

  • Interested /ˈɪntrɪstɪd/: สนใจ

  • Loaded /ˈləʊdɪd/: โหลด

  • Waited /weɪtɪd/: รอ

6. กฎที่ 6: เมื่อคำกริยาช่องที่สองลงท้ายด้วย -ed และพยางค์ก่อนหน้าเป็นเสียงที่มีการสั่น (voiced sounds) เสียง d จะออกเสียงเป็น /d/

ตัวอย่างคำ:

  • Changed /tʃeɪndʒd/: เปลี่ยน

  • Loved /lʌvd/: รัก

  • Begged /begd/: อ้อนวอน

  • Rolled /rəʊld/: กลิ้ง

  • Raised /reɪzd/: ยกขึ้น

7. กฎที่ 7: ตัวอักษร D ไม่ออกเสียง (เป็นเสียงเงียบ)

ในบางกรณี ตัว d จะไม่ออกเสียง หรือเป็นเสียงเงียบ โดยเฉพาะในคำที่มีพยัญชนะ ND, DN, DG อยู่ด้วยกัน
ตัวอย่างคำ:

  • Handkerchief /ˈhæŋkərtʃiːf/: ผ้าเช็ดหน้า

  • Wednesday /ˈwenzdeɪ/: วันพุธ

  • Sandwich /ˈsænwɪdʒ/: แซนด์วิช

  • Handsome /ˈhæn.səm/: หล่อ

  • Dodge /dɒdʒ/: หลบหลีก

แบบฝึกหัดการออกเสียง D

1. ฝึกออกเสียง /d/ เมื่ออยู่ต้นพยางค์ของคำ

  1. director /dəˈrektə/ : ผู้อำนวยการ

  2. data /ˈdeɪtə/ : ข้อมูล

  3. derive /deraɪv/ : ได้รับ

  4. develop /dɪˈveləp/ : พัฒนา

2. ฝึกออกเสียง /d/ เมื่ออยู่กลางคำ

  1. idea /aɪˈdɪə/ : ความคิด

  2. understand /ˌʌndəˈstænd/ : เข้าใจ

  3. already /ɔːlˈredi/ : เรียบร้อยแล้ว

  4. education /ˌedjʊˈkeɪʃən/ : การศึกษา

3. ฝึกออกเสียง /d/ เมื่ออยู่ท้ายคำ

  1. decide /dɪˈsaɪd/ : ตัดสินใจ

  2. kind /kaɪnd/ : ใจดี

  3. word /wɜːd/ : คำ

  4. friend /frend/ : เพื่อน

4. เลือกคำที่มีเสียงที่ขีดเส้นใต้แตกต่างจากคำอื่น

  1. A. dislike
    B. handsome (เสียง d เงียบ ไม่ออกเสียง)
    C. addict

  2. A. module (ออกเสียง d เป็น /dʒ/)
    B. donate
    C. diagram

  3. A. reached
    B. talked
    C. moved (เสียง -ed ออกเป็น /d/, ต่างจากสองคำแรกที่เป็น /t/)

  4. A. visited
    B. decided
    C. kicked (เสียง -ed เป็น /t/, ต่างจากสองคำแรกที่เป็น /ɪd/)

  5. A. dodge
    B. graduate
    C. procedure (คำนี้มีเสียง /dʒ/ อยู่กลางคำ ซึ่งต่างจากอีกสองคำ)

พ่อแม่ฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษให้เด็กง่ายๆ ที่บ้านกับ Monkey Junior

ในการฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษให้เด็ก ๆ พ่อแม่สามารถให้ลูกฟังและเลียนแบบเสียงเจ้าของภาษาได้ทุกวัน อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่มีเจ้าของภาษามาช่วยสอน การตรวจจับและแก้ไขข้อผิดพลาดในการออกเสียงจะไม่ง่ายเลย

Monkey Junior นำเสนอโซลูชันด้วยเทคโนโลยี M-Speak แอปนี้ไม่เพียงช่วยให้ลูกฟังเสียงเจ้าของภาษาอย่างถูกต้อง แต่ยังสามารถบันทึกเสียงของลูกให้คะแนนและแก้ไขข้อผิดพลาดได้ทันที ด้วยวิธีนี้ ลูกของคุณจะได้ "ฝึกกับครูเจ้าของภาษา" ที่บ้าน และพัฒนาการออกเสียงที่ชัดเจนและมั่นใจขึ้นทุกวัน

พ่อแม่ฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษให้เด็กง่ายๆ ที่บ้านกับ Monkey Junior (แหล่งข้อมูล: Monkey)

หากพ่อแม่ต้องการให้ลูกฝึกออกเสียงอย่างมีประสิทธิภาพและสนุกสนาน อย่าลืมให้ลูกลองใช้ Monkey Junior ลงทะเบียนเรียนฟรีวันนี้เพื่อให้ลูกเริ่มต้นการเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องเหมือนเจ้าของภาษา

สรุป

ผ่านบทความนี้ Monkey หวังว่าคุณจะเข้าใจจาก A ถึง Z วิธีการออกเสียง /d/ รวมทั้งสัญญาณที่ช่วยให้คุณรู้จักเสียงนี้มากขึ้น หากคุณต้องการพัฒนาทักษะการสื่อสาร การออกเสียงคือกุญแจสำคัญที่คุณต้องเข้าใจ การฝึกฝนบ่อย ๆ จะช่วยให้คุณออกเสียงได้เป็นธรรมชาติและคล่องแคล่วมากขึ้น ขอให้คุณประสบความสำเร็จในการเรียนภาษาอังกฤษเร็วๆ นี้

 

ข้อมูลในบทความนี้ถูกรวบรวมขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการอ้างอิงเท่านั้น และอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า กรุณาตรวจสอบข้อมูลผ่านช่องทางอย่างเป็นทางการ หรือติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงเพื่อรับทราบข้อมูลล่าสุด

บทความล่าสุด

ลงทะเบียนรับคำปรึกษา

และโปรโมชั่น Monkey Stories