คำกริยาในภาษาอังกฤษคืออะไร? สรุปความรู้เกี่ยวกับคำกริยาในภาษาอังกฤษ
เคล็ดลับการเรียนรู้ (TH)

คำกริยาในภาษาอังกฤษคืออะไร? สรุปความรู้เกี่ยวกับคำกริยาในภาษาอังกฤษ

การปรึกษาบทความ:

Hoàng Mỹ Hạnh

Hoàng Mỹ Hạnh

Thạc sĩ Ngôn ngữ - Chuyên gia Giáo dục sớm

ผู้เขียน: Hoàng Hà

วันที่อัปเดต: 18/09/2025

เนื้อหาหลัก

คำกริยาเป็นส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ในโครงสร้างประโยค เพื่อให้เข้าใจตำแหน่งและคำกริยาที่ใช้บ่อยในภาษาอังกฤษมากยิ่งขึ้น มาร่วมกับ Monkey สำรวจความรู้เกี่ยวกับคำกริยา ที่จะช่วยเพิ่มทักษะการใช้ภาษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คำกริยาในภาษาอังกฤษคืออะไร?

คำกริยาในภาษาอังกฤษ (Verb ย่อว่า V) คือคำที่ใช้แสดงการกระทำ สภาวะ หรือสถานะของประธานที่กำลังถูกกล่าวถึง (เช่น คน สิ่งของ หรือสิ่งต่าง ๆ) คำกริยาเป็นองค์ประกอบสำคัญของโครงสร้างประโยค ไม่สามารถสร้างประโยคที่สมบูรณ์ได้หากไม่มีคำกริยา

ตัวอย่างคำกริยา (V) ในภาษาอังกฤษ:

  • My wife writes an email to her customer. (ภรรยาของผมเขียนอีเมลถึงลูกค้าของเธอ)

  • Mary eats breakfast with cereal every morning. (Mary กินอาหารเช้ากับซีเรียลทุกเช้า)

  • She is a lecturer at BangKok university. (เธอเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ)

  • They have a beautiful house in New York city. (พวกเขามีบ้านที่สวยงามในเมืองนิวยอร์ก)

  • My mother knows the answer. (แม่ของฉันรู้คำตอบ)

คำกริยา คือ คำที่แสดงการกระทำที่เฉพาะเจาะจงในภาษาอังกฤษ (ภาพ: รวบรวมจากอินเทอร์เน็ต)

การจำแนกประเภทคำกริยาในภาษาอังกฤษ

การแบ่งคำกริยาในภาษาอังกฤษตามบทบาท มีรูปแบบเฉพาะดังต่อไปนี้:

คำกริยา to be

คำกริยา to be ในภาษาอังกฤษทำหน้าที่แสดงถึงสภาพ ลักษณะ หรือการมีอยู่ของสิ่งของ/ปรากฏการณ์ใด ๆ
คำกริยา to be ได้แก่: is, am, are

ตัวอย่าง:

  • I am a teacher. (ฉันเป็นครู)

  • There are five people. (มีทั้งหมด 5 คน)

คำกริยาปกติ (Regular/Action Verbs)

คำกริยาปกติคืออะไร? คำกริยาปกติในภาษาอังกฤษคือคำกริยาที่ใช้แสดงการกระทำตามปกติทั่วไป

ตัวอย่าง:

  • Huy listens to music in his free time. (ฮุยฟังเพลงในเวลาว่างของเขา)

  • Loan works until 8 pm every day. (โลอานทำงานถึง 2 ทุ่มทุกวัน)

คำกริยาช่วย (Auxiliary Verbs)

คำกริยาช่วยในภาษาอังกฤษคือคำกริยาที่ใช้ร่วมกับคำกริยาหลัก เพื่อเสริมความหมายให้กับประโยค เช่น แสดงกาลของประโยค ประโยคคำถาม หรือประโยคปฏิเสธ
คำกริยาช่วยที่พบบ่อย ได้แก่ “do” และ “have”

หมายเหตุ:

นกาลปัจจุบัน: คำกริยาช่วย “do” และ “have” จะมี 2 รูปแบบคือ “do”, “have” (สำหรับพหูพจน์) และ “does”, “has” (สำหรับเอกพจน์)

ตัวอย่าง:

  • We have just woken up. (พวกเราเพิ่งตื่นนอน)

  • I don’t like coffee. (ฉันไม่ชอบกาแฟ)

ในกาลอดีต: คำกริยาช่วย “do” และ “have” จะเปลี่ยนเป็น “did” และ “had”

ตัวอย่าง:

  • I did my homework last night. (ฉันทำการบ้านเมื่อคืนนี้)

  • Previously, she had a very lovely dog. However, it took about last month. (ก่อนหน้านี้ เธอมีสุนัขน่ารักตัวหนึ่ง แต่เมื่อเดือนที่แล้ว มันได้จากไปแล้ว)

คำกริยาแสดงความจำเป็นหรือความเป็นไปได้ (Modal Verbs)

ในภาษาอังกฤษ คำกริยา Modal ใช้แสดงความอนุญาต ความมั่นใจ หรือความเป็นไปได้ที่อาจเกิดขึ้น
คำกริยา Modal ที่พบบ่อย ได้แก่: can, should, may, will, must เป็นต้น

ตัวอย่าง:

  • I can play football. (ฉันสามารถเล่นฟุตบอลได้)

  • You should go to bed earlier. (คุณควรเข้านอนให้เร็วกว่านี้)

คำกริยาเชื่อมโยง (Linking Verbs)

คำกริยาเชื่อมโยง หรือที่เรียกว่าคำกริยาแสดงความรู้สึก/สภาพ ซึ่งไม่ได้แสดงการกระทำโดยตรง แต่ใช้เพื่อแสดงอารมณ์ สภาพ หรือสถานะของสิ่งต่าง ๆ
คำกริยาเชื่อมโยงที่พบบ่อย ได้แก่: become, get, seem, prove, look เป็นต้น

ตัวอย่าง: She looks beautiful. (เธอดูสวยมาก)

มีหลายประเภทของกริยาเมื่อเรียนภาษาอังกฤษ (ภาพ: รวบรวมจากอินเทอร์เน็ต)

คำกริยาอกรรมและคำกริสกรรม

นอกจากการจำแนกตามหน้าที่และบทบาทของคำกริยาแล้ว เรายังสามารถแบ่งคำกริยาในภาษาอังกฤษออกเป็นคำกริยาอกรรมและคำกริยาสกรรมได้เช่นกัน

คำกริยาอกรรม (Intransitive Verbs)

คำกริยาอกรรมในภาษาอังกฤษคือคำกริยาที่แสดงการกระทำที่เกิดจากประธาน โดยไม่ส่งผลกระทบต่อกรรมหรือวัตถุอื่น. สิ่งสำคัญที่ต้องจำคือ ประโยคที่ใช้คำกริยาอกรรม ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นรูปประโยค Passive ได้

ตัวอย่าง:

  • He is dancing. (เขากำลังเต้นรำ)

  • She grew up in a small town. (เธอเติบโตขึ้นในเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง)

คำกริยาสกรรม (Transitive Verbs)

คำกริยาสกรรมในภาษาอังกฤษคือคำกริยาที่ต้องใช้ร่วมกับกรรม (หนึ่งกรรมขึ้นไป)
ประโยคที่ใช้คำกริยาสกรรม สามารถเปลี่ยนเป็นรูปประโยค Passive ได้

คำกริยาสกรรมที่พบบ่อยในภาษาอังกฤษ ได้แก่:

  • Make: ทำ, ทำให้

  • Buy: ซื้อ

  • Push: ผลัก

  • Throw: ขว้าง, โยน

  • Open: เปิด

  • Close: ปิด

ตัวอย่าง:

  • My sister makes cakes every Sunday. (พี่สาวของฉันทำเค้กทุกวันอาทิตย์)

  • My brother bought a new mobifone yesterday. (พี่ชายของฉันเพิ่งซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่เมื่อวานนี้)

จำเป็นต้องเข้าใจกริยาอกรรม และกริยาสกรรมเพื่อใช้ให้ถูกต้อง (ภาพ: รวบรวมจากอินเทอร์เน็ต)

การแบ่งคำกริยาตามลักษณะของคำกริยา

คำกริยาแสดงการกระทำ (Active Verbs)

ความหมาย: คำกริยาแสดงการกระทำคือคำกริยาที่ใช้เพื่อบรรยายการกระทำที่เกิดขึ้นจากบุคคลหรือสิ่งของใด ๆ

ซึ่งอาจเป็นการเคลื่อนไหวของร่างกาย หรือการใช้เครื่องมือต่าง ๆ เพื่อทำให้เกิดการกระทำอื่น ๆ

ตัวอย่าง:

  • He is playing basketball. (เขากำลังเล่นบาสเกตบอล)

  • My dog often runs and wags his tail every time I come home. (สุนัขของฉันมักจะวิ่งและกระดิกหางทุกครั้งที่ฉันกลับบ้าน)

  • The homeroom teacher is teaching us again. (ครูประจำชั้นกำลังสอนพวกเราอีกครั้ง)

คำกริยาแสดงการกระทำที่ใช้บ่อย:

  • Jump (กระโดด), Ask (ถาม), Build (สร้าง), Call (โทร),

  • Shout (ตะโกน), Carry (ถือ/แบก), Run (วิ่ง), Hear (ได้ยิน),

  • Climb (ปีน), Come (มา), Dance (เต้น), Drink (ดื่ม),

  • Eat (กิน), Enter (เข้า), Fall (ล้ม), Fix (ซ่อม),

  • Exit (ออก), Give (ให้), Go (ไป), Hit (ตี/ชน),

  • Hop (กระโดดขาเดียว), Kick (เตะ), Laugh (หัวเราะ),

  • Lift (ยก), Move (เคลื่อนที่), Nod (พยักหน้า),

  • Play (เล่น), Push (ผลัก), Ride (ขี่/ขับ),

  • Sing (ร้องเพลง), Send (ส่ง), Sit (นั่ง),

  • Stand (ยืน), Talk (พูด), Throw (ขว้าง/โยน),

  • Walk (เดิน), Yell (ตะโกนเสียงดัง), Write (เขียน)

คำกริยาแสดงสภาพ/สถานะ (Stative Verbs)

ความหมาย: คำกริยาแสดงสถานะคือคำกริยาที่บอกถึงความรู้สึกของมนุษย์หรือสิ่งของ เช่น อารมณ์ ความคิด การครอบครอง ฯลฯ

ตัวอย่าง:

  • This dish has a slightly bland taste, you should add a little salt. (จานนี้มีรสชาติจืดเล็กน้อย คุณควรเติมเกลืออีกหน่อย)

  • I like to walk to see the streets of Hanoi in autumn. (ฉันชอบเดินชมถนนในฮานอยช่วงฤดูใบไม้ร่วง)

  • My family has a small garden behind the house to grow flowers. (ครอบครัวของฉันมีสวนเล็ก ๆ หลังบ้านไว้ปลูกดอกไม้)

คำกริยาแสดงสภาพที่ใช้บ่อย:

  • แสดงอารมณ์ (Emotion): love (รัก), need (ต้องการ), care (ใส่ใจ), feel (รู้สึก), ...

  • แสดงประสาทสัมผัส (Senses): see (เห็น), smell (ได้กลิ่น), touch (สัมผัส), taste (ลิ้มรส), hear (ได้ยิน), ...

  • แสดงการครอบครอง (Possession): have (มี), belong (เป็นของ), own (เป็นเจ้าของ), ...

  • แสดงความคิด (Thought): believe (เชื่อ), know (รู้), matter (มีความสำคัญ), promise (สัญญา), equal (เท่าเทียม), exist (มีอยู่), ...

คำกริยาที่ใช้ได้ทั้งแสดงการกระทำและสถานะ

ในภาษาอังกฤษมีคำกริยาบางคำที่สามารถใช้ได้ทั้งเพื่อแสดงการกระทำและแสดงสถานะ ขึ้นอยู่กับบริบท เช่น:

  • Think: คิด, พิจารณา

  • Feel: รู้สึก / สัมผัส

  • Taste: ลิ้มรส / มีรสชาติ

  • Have: มี / ทานอาหาร, อาบน้ำ ฯลฯ

  • Smell: ได้กลิ่น / ดมกลิ่น

  • See: เห็น / ไปพบ

  • Look: มอง / ดูเหมือน

  • Appear: ปรากฏ / ดูเหมือน

  • Stay: อยู่ / พัก

  • Turn: หัน / กลายเป็น

  • Expect: คาดหวัง / รอคอย

  • Weigh: ชั่งน้ำหนัก / หนัก

  • Enjoy: สนุก / เพลิดเพลิน

ตำแหน่งของคำกริยาในภาษาอังกฤษ

คำกริยาในภาษาอังกฤษสามารถปรากฏในตำแหน่งต่าง ๆ ภายในประโยคได้ ต่อไปนี้คือตำแหน่งบางส่วนของคำกริยาในประโยคภาษาอังกฤษ:

ตำแหน่ง

คำอธิบาย

ตัวอย่าง

หลังคำวิเศษณ์ที่บอกความถี่

คำวิเศษณ์เช่น always, often, sometimes, seldom, never มักจะวางไว้หน้าคำกริยาหลัก เพื่อบอกระดับความถี่ของการกระทำ

Tom always drinks a glass of warm honey water in the morning. (ทอมดื่มน้ำผึ้งอุ่นหนึ่งแก้วในตอนเช้าเสมอ)
She often goes for a walk in the park on weekends. (เธอมักจะเดินเล่นในสวนสาธารณะในวันสุดสัปดาห์)

หลังประธาน

ในประโยคเดี่ยว คำกริยาหลักมักจะตามหลังประธานทันที

She got the award she wished for. (เธอได้รับรางวัลที่เธอปรารถนา)
He brought a lot of luggage during his trip last year. (เขานำสัมภาระจำนวนมากติดตัวไปในการเดินทางเมื่อปีที่แล้ว)

คำกริยา to be + คำคุณศัพท์

คำกริยา “to be” มักจะตามด้วยคำคุณศัพท์เพื่ออธิบายสภาพ อารมณ์ หรือคุณลักษณะ

Mary is suitable for this position. (แมรี่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้)
We are very happy to be invited here. (เรารู้สึกดีใจมากที่ได้รับเชิญมาที่นี่)

หน้ากรรมของประโยค

เมื่อต้องใช้กรรม คำกริยาจะวางไว้หน้ากรรมเพื่อแสดงการกระทำที่ส่งผลต่อวัตถุหรือบุคคล

Help me, please! (ช่วยฉันด้วย!)
Call me if you need information about this tour. (โทรหาฉันถ้าคุณต้องการข้อมูลเกี่ยวกับทัวร์นี้)

วลีคำกริยาภาษาอังกฤษที่พบบ่อย

วลีคำกริยาในภาษาอังกฤษมีบทบาทสำคัญและขาดไม่ได้ในการสื่อสารภาษาอังกฤษ โดยทั่วไปวลีเหล่านี้ประกอบด้วยคำกริยาร่วมกับคำบุพบทหรือคำวิเศษณ์ ซึ่งจะทำให้เกิดความหมายใหม่แตกต่างจากคำกริยาเดิม ต่อไปนี้คือวลีคำกริยาที่พบบ่อยที่คุณควรรู้เพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารของคุณ:

วลีคำกริยา

ความหมาย

ตัวอย่าง

Ask for

ขอสิ่งใดบางอย่าง

He decided to ask for help with his project.
→ เขาตัดสินใจขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับโครงการของเขา

Give up

ยอมแพ้ / ล้มเลิก

She chose to give up trying to convince him.
→ เธอเลือกที่จะยอมแพ้ในการพยายามโน้มน้าวเขา

Try on

ลองสวมใส่ (เสื้อผ้า)

I want to try on this jacket.
→ ฉันอยากลองเสื้อแจ็กเก็ตตัวนี้

Look up

ค้นหาข้อมูล

I will look up the restaurant's hours online before we go.
→ ฉันจะค้นหาเวลาเปิด-ปิดของร้านอาหารทางออนไลน์ก่อนที่เราจะไป

Run away

หนี / หลบหนี

The cat ran away the moment it spotted the dog.
→ แมวหนีไปทันทีที่มันเห็นสุนัข

Lay down

นอนลง

You should lie down on the couch to take a break.
→ คุณควรนอนลงบนโซฟาเพื่อพักผ่อนสักหน่อย

Get out of

ออกจาก (บางสิ่ง)

She tried to get out of bed to play tennis.
→ เธอพยายามลุกออกจากเตียงเพื่อไปเล่นเทนนิส

แบบฝึกหัดเกี่ยวกับคำกริยาในภาษาอังกฤษ

แบบฝึกหัดที่ 1: ระบุประเภทของคำกริยา (Transitive – Intransitive – Linking)

(เลือกดูว่าคำกริยาในประโยคเป็นคำกริยาแบบสกรรมกริยา (T), อกรรมกริยา (I), หรือคำกริยาเชื่อมโยง (L))

ประโยค

  1. She sleeps eight hours every night.

  1. He kicked the ball very hard.

  1. The soup tastes delicious.

  1. They built a new school in my town.

  1. The baby cried loudly.

  1. She became a teacher in 2010.

  1. I play football every weekend.

  1. He looked tired after the game.

  1. The cat runs quickly.

  1. We watched a movie last night.

เฉลย

  1. I

  2. T

  3. L

  4. T

  5. I

  6. L

  7. T

  8. L

  9. I

  10. T

แบบฝึกหัดที่ 2: เลือกคำกริยาให้ถูกต้องตามบริบท (Word Choice)

  1. Please ___ (raise / rise) your hand if you have a question.

  2. The sun ___ (raises / rises) in the east.

  3. She ___ (lays / lies) on the sofa to take a rest.

  4. He ___ (laid / lied) the book on the table.

  5. I can’t ___ (remember / remind) his name.

  6. Could you ___ (remember / remind) me to call Anna?

  7. She often ___ (borrows / lends) books from the library.

  8. Can you ___ (borrow / lend) me some money?

  9. The boy tried to ___ (avoid / prevent) doing his homework.

  10. They want to ___ (prevent / avoid) accidents on the road.

เฉลย:

  1. Raise

  2. Rises

  3. Lies

  4. Laid

  5. Remember

  6. Remind

  7. Borrows

  8. Lend

  9. Avoid

  10. prevent

แบบฝึกหัดที่ 4: หาข้อผิดพลาดและแก้ไขให้ถูกต้อง (Error Identification)

  1. He don’t like coffee.

  2. We enjoyed to watch the football match last night.

  3. She suggested go to the cinema.

  4. If I will see him, I’ll tell him the news.

  5. He is interesting in learning English.

  6. I look forward to meet you soon.

  7. They are used to get up early.

  8. He said me that he was busy.

  9. This exercise is more easy than that one.

  10. She can sings very well.

คำตอบที่ถูกต้อง (คำเฉลย):

  1. don’t → doesn’t

  2. to watch → watching

  3. go → going

  4. will see → see

  5. interesting → interested

  6. meet → meeting

  7. get → getting

  8. said me → told me

  9. more easy → easier

  10. can sings → can sing

แบบฝึกหัดที่ 5: เติมประโยคให้สมบูรณ์โดยเลือกคำตอบที่ถูกต้อง (Multiple Choice)

  1. He ___ to the cinema yesterday.
    A. goes B. went C. gone D. going

  2. They ___ in Hanoi since 2010.
    A. live B. lived C. have lived D. are living

  3. Look! The children ___ football in the yard.
    A. play B. played C. are playing D. plays

  4. She ___ her homework before dinner last night.
    A. finishes B. finished C. has finished D. finishing

  5. If it ___ tomorrow, we’ll stay at home.
    A. rains B. rained C. is raining D. rain

  6. The letter ___ already.
    A. sends B. sent C. is sending D. has been sent

  7. He used to ___ in a small village.
    A. live B. lives C. lived D. living

  8. Would you mind ___ the door?
    A. open B. opening C. to open D. opened

  9. They suggested ___ to the park.
    A. go B. to go C. going D. gone

  10. She let me ___ her car yesterday.
    A. drive B. driving C. to drive D. drove

คำตอบที่ถูกต้อง:

  1. B – went

  2. C – have lived

  3. C – are playing

  4. B – finished

  5. A – rains

  6. D – has been sent

  7. A – live

  8. B – opening

  9. C – going

  10. A – drive

Monkey Junior – โซลูชันการเรียนภาษาอังกฤษแบบครบวงจรสำหรับเด็ก

Monkey Junior คือแอปพลิเคชันสำหรับการเรียนภาษาอังกฤษที่ออกแบบมาสำหรับเด็กอายุ 0 - 11 ปี โดยมีบทเรียนมากกว่า 3,000 บท และคำศัพท์พร้อมตัวอย่างประโยคกว่า 10,000 รายการที่ถูกจัดเรียงอย่างเป็นระบบทางวิทยาศาสตร์

แอปใช้วิธีการเรียนรู้แบบหลายประสาทสัมผัส (Multisensory) ผสานภาพประกอบที่มีชีวิตชีวา เสียงอ่านจากเจ้าของภาษา และเกมแบบอินเทอร์แอคทีฟ เพื่อช่วยให้เด็กเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้อย่างเป็นธรรมชาติ สนุกสนาน และจดจำได้ง่าย

ใช้เวลาเพียงวันละ 10–15 นาที เด็กๆ จะได้ฝึกการออกเสียงอย่างถูกต้อง ขยายคลังคำศัพท์ ทำความคุ้นเคยกับไวยากรณ์ และสร้างนิสัยการเรียนภาษาต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

Monkey Junior พร้อมเป็นเพื่อนร่วมทางในการเรียนรู้ของเด็กๆ ตั้งแต่พื้นฐานจนสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจในชีวิตประจำวัน

อย่าพลาดโอกาสดีๆ ที่จะให้ลูกเริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษอย่างถูกวิธีตั้งแต่วันนี้
สมัครทดลองเรียนฟรีกับ Monkey Junior และสัมผัสประสบการณ์การเรียนรู้ที่ครบถ้วนและเหมาะสมที่สุดสำหรับลูกน้อยของคุณ

สรุป

ในบทความข้างต้น Monkey ได้รวบรวมและแบ่งปันความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับคำกริยาในภาษาอังกฤษให้กับคุณ
หวังว่าความรู้เหล่านี้จะช่วยให้คุณพิชิตแบบฝึกหัดภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประสบความสำเร็จในการสอบต่างๆ ได้คะแนนดีเยี่ยม

ข้อมูลในบทความนี้ถูกรวบรวมขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการอ้างอิงเท่านั้น และอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า กรุณาตรวจสอบข้อมูลผ่านช่องทางอย่างเป็นทางการ หรือติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงเพื่อรับทราบข้อมูลล่าสุด

ลงทะเบียนรับคำปรึกษา

และโปรโมชั่น Monkey Stories