คำนำหน้านามในภาษาอังกฤษ a, an, the และการใช้งานอย่างละเอียด
เคล็ดลับการเรียนรู้ (TH)

คำนำหน้านามในภาษาอังกฤษ a, an, the และการใช้งานอย่างละเอียด

การปรึกษาบทความ:

Hoàng Mỹ Hạnh

Hoàng Mỹ Hạnh

Thạc sĩ Ngôn ngữ - Chuyên gia Giáo dục sớm

ผู้เขียน: Hoàng Hà

วันที่อัปเดต: 23/09/2025

เนื้อหาหลัก

คำนำหน้านาม (Articles) ในภาษาอังกฤษ คือคำที่วางไว้หน้าคำนาม เพื่อบอกว่า คำนามนั้นกล่าวถึงสิ่งที่เฉพาะเจาะจงหรือไม่เฉพาะเจาะจง นี่คือส่วนหนึ่งของไวยากรณ์พื้นฐานที่มักปรากฏในการสอบภาษาอังกฤษต่างๆ แต่อะไรกันแน่คือคำนำหน้านาม? แล้วจะใช้ a, an, the อย่างไรให้ถูกต้อง? มาศึกษาไปพร้อมกับ Monkey ได้เลยในเนื้อหาด้านล่างนี้ครับ/ค่ะ!

คำนำหน้านามในภาษาอังกฤษคืออะไร?

คำนำหน้านาม (Article) ในภาษาอังกฤษ คือคำที่มักวางไว้หน้าคำนาม เพื่อช่วยให้ผู้อ่านหรือผู้ฟังเข้าใจได้ว่า คำนามนั้นกล่าวถึงสิ่งที่เฉพาะเจาะจงหรือไม่เฉพาะเจาะจง

ในความเป็นจริงแล้ว คำนำหน้านามไม่ได้ถูกจัดเป็นชนิดคำที่แยกออกมา แต่มักถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของ คำคุณศัพท์ ที่ทำหน้าที่ขยายความหมายของคำนาม

คำนำหน้านามในภาษาอังกฤษแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือ:

  • คำนำหน้านามแบบเฉพาะเจาะจง (Definite Article) → “the”

  • คำนำหน้านามแบบไม่เฉพาะเจาะจง (Indefinite Article) → “a, an”

ตัวอย่าง:

  • I see a dog. The dog is running across the road very fast. (ฉันเห็นสุนัขตัวหนึ่ง สุนัขตัวนั้นกำลังวิ่งข้ามถนนอย่างรวดเร็ว)

  • Please give me the pen on the table. (กรุณาหยิบปากกาที่อยู่บนโต๊ะให้ฉันหน่อย)

คำนำหน้าเป็นคำที่วางหน้าคำนาม เพื่อบอกว่าคำนามนั้นกล่าวถึงสิ่งที่ระบุชัดเจนหรือไม่ระบุชัดเจน (ภาพ: รวบรวมจากอินเทอร์เน็ต)

ประเภทของคำนำหน้านามที่พบบ่อยในภาษาอังกฤษ

คำนำหน้านามไม่เฉพาะเจาะจง (Indefinite Article)

ในภาษาอังกฤษ มีคำนำหน้านามไม่เฉพาะเจาะจงอยู่ 2 คำ คือ a และ an:

“a” ใช้นำหน้าคำนามนับได้เอกพจน์ที่ขึ้นต้นด้วย พยัญชนะเสียง (consonant sound)
ตัวอย่าง:

  • a table (โต๊ะหนึ่งตัว)

  • a book (หนังสือหนึ่งเล่ม)

“an” ใช้นำหน้าคำนามนับได้เอกพจน์ที่ขึ้นต้นด้วย สระเสียง (vowel sound) เช่น a, e, i, o, u หรือ h ที่ไม่ออกเสียง

ตัวอย่าง:

  • an hour (หนึ่งชั่วโมง – h ไม่ออกเสียง)

  • an apple (แอปเปิ้ลหนึ่งลูก)

คำนำหน้านามเฉพาะเจาะจง (Definite Article)

คำนำหน้านามเฉพาะเจาะจงในภาษาอังกฤษคือ “the” ใช้เมื่อพูดถึง สิ่งของ/บุคคลที่ผู้พูดและผู้ฟังรู้จักหรือเข้าใจตรงกันว่าเป็นอะไร “the” สามารถใช้ได้กับ คำนามนับได้ทั้งเอกพจน์และพหูพจน์ รวมถึงคำนามนับไม่ได้

ตัวอย่าง:

  • The man talking to Lan is my boyfriend. (ผู้ชายที่กำลังคุยกับ Lan คือแฟนของฉัน)

  • Yesterday, I saw an accident here. The accident left one person injured and the motorcycle severely damaged. (เมื่อวานนี้ฉันเห็นอุบัติเหตุที่นี่ อุบัติเหตุนั้นทำให้มีผู้บาดเจ็บ 1 คน และมอเตอร์ไซค์เสียหายอย่างหนัก)

ข้อควรจำ:

  • ใช้ “the” เมื่อต้องการกล่าวถึงสิ่งของ/บุคคลที่ เฉพาะเจาะจงหรือกล่าวถึงไปแล้ว

  • ใช้ “a” และ “an” เมื่อต้องการกล่าวถึงสิ่งที่ ไม่เฉพาะเจาะจงหรือกล่าวถึงเป็นครั้งแรก

วิธีการใช้คำนำหน้านามในภาษาอังกฤษ

คำนำหน้านามถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในทั้งภาษาพูดและภาษาเขียน แต่จะใช้คำนำหน้านามอย่างไรให้ถูกต้อง? มาดูรายละเอียดกันกับ Langmaster ด้านล่างนี้เลยครับ/ค่ะ

วิธีใช้คำนำหน้านาม “a, an”

วิธีใช้คำนำหน้านาม “a”

“a” เป็นคำนำหน้านามไม่เจาะจง (Indefinite Article) ในภาษาอังกฤษ มักใช้กับคำนามเอกพจน์ที่ขึ้นต้นด้วยเสียงพยัญชนะ

อย่างไรก็ตาม มีกรณีเริ่มต้นด้วยตัวสระ (vowel) แต่เสียงออกมาเหมือนพยัญชนะ ก็ยังใช้ “a”
ตัวอย่าง: a uniform, a universal truth

“a” ถูกใช้ในสำนวนที่บอกถึงความเร็ว ราคา อัตราส่วน หรือเศษส่วน
ตัวอย่าง: a one second (½), 3 times a day, $2 a kilo

“a” ใช้กับตัวเลขนับ หรือสำนวนเฉพาะเกี่ยวกับจำนวน
ตัวอย่าง: a one thousand, a couple, a lot

วิธีใช้คำนำหน้านาม “an”

“an” ใช้กับคำนามเอกพจน์ที่ขึ้นต้นด้วยเสียงสระ (u, e, a, i, o)

หรือกับคำบางคำที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะแต่เสียง “h” ไม่ออก (silent h)
ตัวอย่าง: an egg, an apple, an hour, an MC

กรณีที่ไม่ใช้ “a, an”

ไม่ใช้ “a, an” หน้า คำนามพหูพจน์

  • ไม่ใช้ “a, an” หน้า คำนามที่นับไม่ได้ หรือคำนามเชิงนามธรรม
    ตัวอย่าง: What I need now is confidence.
  • ไม่ใช้ “a, an” หน้า ชื่อมื้ออาหาร เว้นแต่มีคำคุณศัพท์ขยายมื้ออาหารนั้น
    ตัวอย่าง: I eat breakfast at 6 o'clock so I can get to school in time.

วิธีใช้คำนำหน้านาม “the” และกรณีที่ไม่ใช้ “the”

วิธีใช้ “the”

“The” คือคำนำหน้านามเฉพาะเจาะจง ใช้กับคำนามที่ผู้พูดและผู้ฟังรู้ว่าเป็นใครหรืออะไร

  • ใช้เมื่อสิ่งของ/กลุ่มสิ่งของนั้นเป็นสิ่งที่ มีสิ่งเดียว หรือถูกมองว่าเป็นหนึ่งเดียว
    ตัวอย่าง: the sun, the world, the earth
  • ใช้กับคำนามที่ถูกกล่าวถึงมาก่อน
    ตัวอย่าง: I see a dog. The dog is chasing a cat. The cat is chasing a mouse.
  • ใช้เมื่อคำนามได้รับการระบุโดยวลีหรืออนุประโยค
    ตัวอย่าง: The teacher that I met yesterday is my sister in law.
  • ใช้กับคำนามเฉพาะที่ผู้พูดและผู้ฟังเข้าใจถึงสิ่งนั้น
    ตัวอย่าง: Please pass the jar of honey.
  • ใช้กับคำเปรียบเทียบขั้นสุด (superlatives) หรือคำอย่าง “first, second, only…” เมื่อใช้เป็นคำคุณศัพท์หรือคำสรรพนาม
  • ใช้ “the” + คำนามเอกพจน์เพื่อแทนกลุ่มสัตว์หรือสิ่งของ
    ตัวอย่าง: The whale is in danger of becoming extinct.
  • ใช้ “the” ข้างหน้าคำคุณศัพท์เพื่อระบุกลุ่มคนที่แน่นอน
    ตัวอย่าง: The old (คนแก่), the poor, the rich
  • ใช้ “the” กับชื่อทะเล, แม่น้ำ, หมู่เกาะ, เทือกเขา, ประเทศที่เป็นพหูพจน์, ทะเลทราย, ภูมิภาค
    ตัวอย่าง: The Pacific, The United States, the Alps
  • ใช้ “the” เมื่อเรากล่าวถึงสถานที่ใดสถานที่หนึ่งในบทบาทที่แน่นอน
    ตัวอย่าง: They went to the school to see their children.
  • “The + นามสกุล” เป็นการหมายถึงครอบครัว
    ตัวอย่าง: The Smiths, The Browns

กรณีที่ไม่ใช้ “the”

ไม่ใช้ “the” หน้า ชื่อประเทศเอกพจน์, ทวีป, ชื่อภูเขา, ชื่อทะเลสาบ, ชื่อถนน ฯลฯ (ยกเว้นกรณีที่เป็นประเทศที่ชื่อแบบสหพันธรัฐหรือพหูพจน์) ตัวอย่าง: Europe, Asia, France, Wall Street, Sword Lake

  • ไม่ใช้ “the” กับ คำนามที่นับไม่ได้ หรือ คำนามพหูพจน์ เมื่อใช้ในความหมายทั่วไป
    ตัวอย่าง: I like dogs; Oranges are good for health.
  • ไม่ใช้ “the” หน้า คำนามนามธรรม หากไม่ใช่กรณีเฉพาะเจาะจง
    ตัวอย่าง: Men fear death. The death of his father made him completely hopeless.
  • ไม่ใช้ “the” หลังคำคุณศัพท์แสดงความเป็นเจ้าของ หรือรูปเจ้าของของคำนาม
    ตัวอย่าง: my friend ไม่ใช่ my the friend; the man’s wife ไม่ใช่ the wife of the man
  • ไม่ใช้ “the” หน้า ชื่อมื้ออาหาร หรือ ตำแหน่งยศ (trừ khiมีคำขยายนำหน้า)
  • ไม่ใช้ “the” ในกรณีที่กล่าวถึงคำนามในความหมายทั่วไป เช่น เล่นกีฬา, ฤดูในปี, พาหนะโดยทั่วไป
    ตัวอย่าง: Come by car/by bus; In spring / in autumn; from beginning to end; from left to right

คำนำหน้าที่พบบ่อยในภาษาอังกฤษ (ภาพ: รวบรวมจากอินเทอร์เน็ต)

กรณีที่ไม่ใช้คำนำหน้านาม (Articles)

นอกจากนี้ ในการใช้คำนำหน้านามในภาษาอังกฤษ ยังมีบางกรณีที่ไม่ควรใช้ ดังนี้:

  • ไม่ใช้คำนำหน้านามเมื่อพูดถึงสิ่งที่เป็นนามธรรม หรือสิ่งทั่วไป
    ตัวอย่าง: I love watching fish. (ฉันชอบดูปลา)

  • ไม่ใช้คำนำหน้านามเมื่อพูดถึงชื่อประเทศ หรือมื้ออาหารในแต่ละวัน
    ตัวอย่าง: Have you had breakfast? (คุณกินอาหารเช้าแล้วหรือยัง)

  • ไม่ใช้คำนำหน้านามเมื่อพูดถึงคำนามที่นับไม่ได้
    ตัวอย่าง: Sugar is not good for obese people. (น้ำตาลไม่ดีต่อคนที่มีน้ำหนักเกิน)

  • ไม่ใช้คำนำหน้านามเมื่อพูดถึงภาษา ชื่อเมือง หรือชื่อภูเขา
    ตัวอย่าง: English, China, Paris (ภาษาอังกฤษ ประเทศจีน กรุงปารีส)

แบบฝึกหัดการใช้คำนำหน้านาม (Articles)

แบบฝึกหัดที่ 1: เติมคำนำหน้านามให้เหมาะสม (a, an, the หรือไม่ต้องใส่ Ø)

  1. She bought ___ apple from the market.

  2. We saw ___ elephant in the zoo.

  3. I need ___ umbrella because it’s raining.

  4. There is ___ book on the table.

  5. He wants to be ___ engineer.

  6. She is ___ honest girl.

  7. They visited ___ Eiffel Tower last summer.

  8. My father reads ___ newspaper every morning.

  9. He usually goes to ___ school by bus.

  10. We stayed at ___ hotel near the beach.

คำตอบ:

  1. an

  2. an

  3. an

  4. a

  5. an

  6. an

  7. the

  8. the

  9. Ø

  10. a

แบบฝึกหัดที่ 2: เลือกคำตอบที่ถูกต้อง

  1. This is ___ best day of my life.
    A. a – B. an – C. the – D. Ø

  2. He works as ___ teacher.
    A. a – B. an – C. the – D. Ø

  3. I saw ___ old man walking down the street.
    A. a – B. an – C. the – D. Ø

  4. She usually drinks ___ water after lunch.
    A. a – B. an – C. the – D. Ø

  5. We went to ___ cinema last night.
    A. a – B. an – C. the – D. Ø

  6. He wants to buy ___ orange.
    A. a – B. an – C. the – D. Ø

  7. There was ___ heavy rain yesterday.
    A. a – B. an – C. the – D. Ø

  8. Paris is ___ capital of France.
    A. a – B. an – C. the – D. Ø

  9. I met ___ interesting person at the party.
    A. a – B. an – C. the – D. Ø

  10. My mother always listens to ___ radio in the morning.
    A. a – B. an – C. the – D. Ø

คำตอบ:

  1. C

  2. A

  3. B

  4. D

  5. C

  6. B

  7. A

  8. C

  9. B

  10. C

แบบฝึกหัดที่ 3: แก้ไขข้อผิดพลาดเกี่ยวกับการใช้คำนำหน้านาม

  1. She is a honest woman.

  2. He bought an book yesterday.

  3. The Mount Everest is the highest mountain in the world.

  4. We usually go to the school at 7 a.m.

  5. They stayed in an hotel near the airport.

  6. I need a information about the train schedule.

  7. She is an university student.

  8. He is the best player in a team.

  9. The life is short.

  10. He drank the milk every day when he was a child.

คำตอบที่ถูกต้อง:

  1. a → an

  2. an → a

  3. The Mount Everest → Mount Everest

  4. the school → Ø school

  5. an hotel → a hotel

  6. a information → Ø information

  7. an university → a university

  8. a team → the team

  9. The life → Life

  10. the milk → Ø milk

บทสรุป

แม้ว่าคำนำหน้านามในภาษาอังกฤษจะเป็นความรู้พื้นฐาน แต่ก็มักมีความซับซ้อนในด้านความหมายและการใช้งาน หวังว่าบทความข้างต้นจะช่วยให้คุณเข้าใจไวยากรณ์ในส่วนนี้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น. นอกจากนี้ อย่าลืมเข้าชมเว็บไซต์ Monkey เป็นประจำเพื่ออัปเดตบทเรียนเกี่ยวกับคำศัพท์และโครงสร้างประโยคใหม่ ๆ ทุกวัน

ข้อมูลในบทความนี้ถูกรวบรวมขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการอ้างอิงเท่านั้น และอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า กรุณาตรวจสอบข้อมูลผ่านช่องทางอย่างเป็นทางการ หรือติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงเพื่อรับทราบข้อมูลล่าสุด

บทความล่าสุด

ลงทะเบียนรับคำปรึกษา

และโปรโมชั่น Monkey Stories