การเรียนภาษาอังกฤษผ่านภาพเป็นวิธีที่เรียบง่ายแต่ได้ผลดีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสำหรับเด็กๆ ด้วยภาพประกอบที่มีชีวิตชีวา สมองของเด็กสามารถจดจำคำศัพท์และบริบทได้เร็วขึ้น และยังช่วยเพิ่มความสนใจในการเรียนอีกด้วย แล้วเราจะใช้วิธีนี้อย่างไรให้ถูกต้องและได้ผลดีที่สุดสำหรับเด็ก? มาค้นหาคำตอบไปพร้อมกับ Monkey ในบทความนี้กันเลย
การเรียนภาษาอังกฤษผ่านภาพคืออะไร?
วิธีการเรียนภาษาอังกฤษผ่านภาพเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการเรียนรู้คำศัพท์และไวยากรณ์ โดยการผสมผสานระหว่างภาพที่มองเห็นได้กับคำศัพท์ภาษาอังกฤษ แทนที่จะท่องจำคำศัพท์ที่น่าเบื่อ การใช้ภาพจะช่วยให้คุณสามารถเชื่อมโยง จดจำได้นานขึ้น และเข้าใจความหมายของคำได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการเรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับผลไม้ คุณสามารถดูวิดีโอเกี่ยวกับผลไม้บน YouTube พร้อมทั้งพูดชื่อผลไม้เป็นภาษาอังกฤษตามไปด้วย หรือจะใช้แฟลชการ์ดที่ด้านหนึ่งเป็นภาพวาด และอีกด้านเป็นคำศัพท์หรือวลีที่เกี่ยวข้อง วิธีเหล่านี้เรียกว่า "การเรียนภาษาอังกฤษผ่านภาพ"
ข้อดีของการให้เด็กเรียนภาษาอังกฤษผ่านภาพ
การเรียนภาษาอังกฤษผ่านภาพเป็นวิธีที่ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากแนะนำให้ใช้กับเด็ก ไม่เพียงแต่ช่วยให้เด็กสนุกกับการเรียนมากขึ้น แต่วิธีนี้ยังมีข้อดีที่โดดเด่นหลายประการ เช่น:
-
จดจำคำศัพท์ได้นานขึ้น: ภาพประกอบที่ชัดเจนช่วยให้เด็กเชื่อมโยงคำศัพท์กับสิ่งของจริงได้ง่ายกว่าการท่องจำเพียงอย่างเดียว
-
กระตุ้นการพัฒนาสมอง: สมองของเด็กสามารถจดจำภาพได้เร็วกว่าตัวหนังสือหลายเท่า และยังช่วยเสริมสร้างจินตนาการและความคิดวิเคราะห์
-
สร้างปฏิกิริยาทางภาษาอย่างเป็นธรรมชาติ: เด็กเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ผ่านภาพคล้ายกับการเรียนรู้ภาษาของแม่ ทำให้ฟังและพูดได้ง่ายขึ้น
-
เพิ่มความสนุก ลดความกดดัน: การเรียนผ่านภาพทำให้เวลาเรียนกลายเป็นกิจกรรมที่สนุกสนาน ไม่ใช่บทเรียนที่น่าเบื่อ
-
เหมาะสำหรับเด็กที่ยังอ่านหนังสือไม่ออก: เด็กสามารถเริ่มเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้ตั้งแต่อายุยังน้อย โดยไม่จำเป็นต้องมีทักษะการอ่าน
วิธีเรียนภาษาอังกฤษผ่านภาพสำหรับเด็กอย่างมีประสิทธิภาพ
การเรียนภาษาอังกฤษผ่านภาพเป็นวิธีที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับเด็กเล็ก เพราะสามารถใช้ความสามารถในการจดจำภาพของสมองได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีจริง ผู้ปกครองควรรู้วิธีนำไปใช้ให้ดึงดูดและเป็นระบบ ต่อไปนี้คือวิธีสอนเด็กเรียนภาษาอังกฤษผ่านภาพที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ที่บ้าน:
ใช้แฟลชการ์ดที่มีภาพสดใส
แฟลชการ์ดเป็นวิธีเรียนคำศัพท์ที่ได้รับความนิยมมานาน สำหรับเด็กเล็ก ควรเลือกการ์ดที่มีภาพประกอบขนาดใหญ่ สีสันสดใส เพื่อกระตุ้นความสนใจ พ่อแม่สามารถเล่นกับลูกโดยเปิดการ์ดทีละใบ พูดชื่อสิ่งของเป็นภาษาอังกฤษ แล้วให้ลูกพูดตาม วิธีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้จำคำศัพท์ได้ดีขึ้น แต่ยังช่วยเชื่อมโยงภาพกับเสียงโดยตรง ลดการแปลเป็นภาษาไทยในใจ
เคล็ดลับหนึ่งคือเล่นเกม “หาแฟลชการ์ด” หรือ “ยกการ์ดขึ้นเมื่อได้ยินคำ” จะช่วยให้เด็กมีปฏิสัมพันธ์มากขึ้น แทนที่จะดูเฉย ๆ
ดูหนังสือภาพหรือหนังสือการ์ตูนภาษาอังกฤษ
หนังสือภาพ (Picture Book) ที่มีภาพประกอบสดใสพร้อมประโยคง่าย ๆ เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการเรียนภาษาอังกฤษผ่านภาพ แทนที่จะเรียนรู้คำศัพท์แยก ๆ เด็กจะได้สัมผัสคำศัพท์ผ่านเนื้อเรื่องทั้งหมด ซึ่งสามารถเดาความหมายได้จากภาพประกอบ นอกจากนี้ ประโยคสั้น ๆ ในหนังสือภาพยังช่วยให้เด็กคุ้นเคยกับโครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษอย่างเป็นธรรมชาติ ผู้ปกครองควรอ่านออกเสียงพร้อมชี้ไปที่ภาพ กระตุ้นให้เด็กเล่าเรื่องซ้ำ หรือตั้งคำถาม เช่น “Where is the cat?” หรือ “What color is the ball?” เพื่อให้เด็กฝึกตอบโต้ด้วยภาษาอังกฤษอย่างเป็นธรรมชาติ
เรียนรู้ผ่านวิดีโอการ์ตูนและแอปพลิเคชันที่มีภาพประกอบ
วิดีโอการ์ตูนหรือแอปสอนภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก (เช่น Monkey Junior) ที่ผสมผสานภาพ เสียง และตัวละครที่มีชีวิตชีวา เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับให้เด็กได้เรียนไปพร้อมกับความสนุกสนาน โดยเฉพาะแอปในปัจจุบันมักออกแบบเนื้อหาอย่างเป็นระบบตามช่วงอายุ มีแผนการเรียนชัดเจน และพัฒนาทักษะทั้งฟัง พูด อ่าน เขียน ควบคู่กับภาพประกอบ ระหว่างเรียน ควรให้เด็กพูดตามประโยคในวิดีโอ และตั้งคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่เด็กเห็นในวิดีโอ เพื่อช่วยเสริมคำศัพท์และทักษะการสื่อสาร
เล่นเกมแบบอินเทอร์แอคทีฟที่ใช้ภาพประกอบ
มีเกมง่าย ๆ มากมายที่ใช้ภาพในการช่วยให้เด็กเรียนรู้ภาษาอังกฤษ เช่น การจัดกลุ่มภาพ (เช่น กลุ่มสัตว์ กลุ่มอาหาร), จับคู่คำศัพท์กับภาพ, หรือบิงโกภาพ… เกมเหล่านี้ช่วยให้เด็กจดจำคำศัพท์ได้อย่างสนุกสนาน และยังพัฒนาทักษะการคิดเชิงจัดหมวดหมู่ รวมถึงความจำระยะสั้นอีกด้วย
คุณสามารถทำบัตรคำด้วยตัวเอง หรือดาวน์โหลดแม่แบบฟรีจากอินเทอร์เน็ต หรือแม้แต่ให้เด็กวาดภาพเองแล้วตั้งชื่อเป็นภาษาอังกฤษ ก็จะเพิ่มความสนุกและการมีส่วนร่วมมากขึ้น
ติดคำศัพท์ภาษาอังกฤษบนสิ่งของจริงภายในบ้าน
นี่คือรูปแบบการ “เรียนรู้ผ่านภาพจากชีวิตจริง” ที่เข้าใจง่ายและจับต้องได้ ลองติดสติกเกอร์ที่มีคำศัพท์ภาษาอังกฤษลงบนสิ่งของต่าง ๆ ในบ้าน เช่น ประตู โต๊ะ เก้าอี้ กระจก ตู้เย็น... เพื่อให้เด็กเห็นและอ่านทุกวัน วิธีนี้จะเปลี่ยนบ้านให้กลายเป็น “ห้องเรียนภาษา” ที่สนุกสนาน และช่วยให้เด็กจำคำศัพท์ได้ดีขึ้นเพราะเชื่อมโยงกับภาพจริงรอบตัว
Monkey Junior – แอปเรียนภาษาอังกฤษมัลติมีเดียสุดล้ำสำหรับเด็ก
หนึ่งในวิธีเรียนภาษาอังกฤษผ่านภาพที่ได้รับความนิยมจากผู้ปกครองจำนวนมากในปัจจุบัน คือการให้ลูกเรียนกับแอปพลิเคชัน Monkey Junior ซึ่งไม่ใช่แค่แอปสอนคำศัพท์พร้อมภาพประกอบเท่านั้น แต่ยังเป็นโปรแกรมที่พัฒนาขึ้นจากแนวคิดการศึกษายุคต้นชื่อดัง เช่น Glenn Doman, Phonics และการเรียนรู้แบบหลายประสาทสัมผัส Montessori
Monkey Junior ช่วยให้เด็กเรียนภาษาอังกฤษผ่านภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยคุณสมบัติดังนี้:
-
ภาพประกอบสดใส ออกแบบเฉพาะสำหรับเด็ก: ทุกคำศัพท์ วลี และประโยคมีภาพที่คมชัด สวยงาม และมีฉากเคลื่อนไหวสนุกสนาน ช่วยให้เด็กเชื่อมโยงความหมายได้ง่าย
-
ใช้สื่อหลายรูปแบบร่วมกัน: เด็กไม่เพียงแค่มองภาพ แต่ยังได้ยินเสียงเจ้าของภาษา (สำเนียงอังกฤษ-อเมริกัน-ออสเตรเลีย), พูดตาม, อ่านคำ และแม้แต่ฝึกเขียนด้วยฟีเจอร์ M-Write ซึ่งกระตุ้นการเรียนรู้ผ่านการฟัง การมองเห็น และการเคลื่อนไหวพร้อมกัน
-
มีแผนการเรียนที่เป็นระบบ: Monkey Junior แบ่งระดับตามอายุ (ตั้งแต่ 0 – 11 ปี) และความยากง่ายของบทเรียน ช่วยให้เด็กสะสมคำศัพท์และพัฒนาทักษะการใช้ภาษาอย่างมั่นคงตั้งแต่พื้นฐาน
-
ยืดหยุ่นเรื่องเวลา เรียนได้ทุกที่ทุกเวลา: ผู้ปกครองสามารถให้ลูกเรียนเพียงวันละ 10 – 15 นาที สร้างนิสัยการเรียนรู้โดยไม่ต้องบังคับ
-
พัฒนาทักษะครบทุกด้าน: ไม่ใช่แค่ฟังและดูภาพเท่านั้น แต่ยังฝึกฟัง-พูด-อ่าน-เขียนพร้อมกัน ช่วยให้เด็กเรียนรู้ภาษาอังกฤษอย่างเป็นธรรมชาติ ราวกับเป็นเจ้าของภาษา
สมัครวันนี้ เพื่อทดลองเรียน Monkey Junior ฟรี แล้วให้ลูกได้สัมผัสประสบการณ์การเรียนภาษาอังกฤษผ่านภาพที่สนุกและได้ผลจริง!
ข้อควรระวังเมื่อลูกเรียนภาษาอังกฤษผ่านภาพ
แม้ว่าการเรียนภาษาอังกฤษผ่านภาพจะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากสำหรับเด็กเล็ก แต่เพื่อได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ผู้ปกครองควรระวังเรื่องต่อไปนี้:
-
เลือกรูปภาพให้เหมาะสมกับช่วงอายุ: ภาพประกอบควรชัดเจน เรียบง่าย และใกล้เคียงกับชีวิตประจำวันของเด็ก เพื่อให้เด็กเชื่อมโยงได้ง่าย หลีกเลี่ยงภาพที่ซับซ้อนหรือเป็นนามธรรมเกินไป
-
ไม่ควรเรียนคำศัพท์จำนวนมากพร้อมกัน: แต่ละครั้งควรแนะนำคำศัพท์ประมาณ 5–7 คำ และทบทวนซ้ำหลายครั้ง เพื่อช่วยให้เด็กจำได้ดี หลีกเลี่ยงการยัดเยียดมากเกินไปจนเด็กรู้สึกเบื่อหรือกลัวการเรียน
-
ผสมผสานการพูดและการชี้ภาพ: เมื่อให้เด็กดูภาพ ควรอ่านคำศัพท์ภาษาอังกฤษให้ดัง ชี้ไปที่ภาพ และกระตุ้นให้เด็กพูดตาม วิธีนี้ช่วยเชื่อมโยงเสียงกับภาพได้ดียิ่งขึ้น
-
เปลี่ยนการเรียนให้เป็นเกม: อาจใช้แฟลชการ์ดเล่นเกมหาภาพ การเปิดการ์ดเดาคำ หรือแข่งขันพูดเร็ว เด็กจะสนุกและอยากเรียนโดยไม่รู้สึกถูกบังคับ
-
อดทนและรักษานิสัยเรียนทุกวัน: การเรียนวันละ 5–10 นาทีอย่างสม่ำเสมอมีประสิทธิภาพกว่าการเรียนมากในครั้งเดียวแล้วเลิก
สรุป
การเรียนภาษาอังกฤษผ่านภาพเป็นวิธีการที่เป็นธรรมชาติ สนุกสนาน และเหมาะสำหรับเด็กเล็กเป็นอย่างมาก การใช้วิธีนี้อย่างถูกต้องจะช่วยให้เด็กจำคำศัพท์ได้เร็ว พัฒนาการตอบสนองทางภาษา และสร้างพื้นฐานภาษาอังกฤษที่มั่นคงตั้งแต่ต้น ขอให้ผู้ปกครองอดทนและเป็นกำลังใจเพื่อให้การเรียนภาษาอังกฤษผ่านภาพของลูกเป็นความสุขในทุก ๆ วัน