ท่ามกลางแบบทดสอบมาตรฐานมากมายที่มีอยู่ในปัจจุบัน Pearson Test of English (PTE) ได้กลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่โดดเด่นและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั่วโลก แต่ PTE คืออะไร และการสอบนี้ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของผู้สอบทั่วโลกอย่างไร? คู่มือฉบับนี้จะพาคุณไปรู้จักรายละเอียดของข้อสอบ PTE ตั้งแต่ประเภท ระบบการให้คะแนน ไปจนถึงการนำไปใช้งานเพื่อการย้ายถิ่นฐาน เรียนต่อ หรือทำงานในต่างประเทศ
PTE คืออะไร (Pearson Test of English)?
Pearson Test of English (PTE) คือแบบทดสอบความสามารถทางภาษาอังกฤษแบบใช้คอมพิวเตอร์ สำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ ซึ่งต้องการเรียนต่อ ย้ายถิ่นฐาน หรือทำงานในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ ข้อสอบนี้จะประเมินทักษะการอ่าน เขียน ฟัง และพูดในรูปแบบการสอบรวมชุดเดียว โดยใช้เทคโนโลยี AI ขั้นสูงในการให้คะแนน ทำให้ได้ผลลัพธ์อย่างรวดเร็วและเป็นกลางภายใน 48 ชั่วโมง อีกทั้งยังได้รับการยอมรับจากมหาวิทยาลัย วิทยาลัย และหน่วยงานรัฐบาลทั่วโลก จึงเป็นทางเลือกยอดนิยมระดับนานาชาติ
ทำไมควรสอบ PTE? ใครเหมาะกับการสอบนี้?
เหตุผลที่ควรเลือกสอบ PTE มีดังนี้
-
ข้อสอบ PTE Academic มักให้ผลภายใน 2 วันทำการ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องยื่นเอกสารด่วน
-
คะแนน PTE ได้รับการยอมรับจากมหาวิทยาลัย วิทยาลัย และรัฐบาลหลายพันแห่งทั่วโลกสำหรับการเรียนต่อ ทำงาน หรือขอย้ายถิ่นฐาน
-
ข้อสอบแบบใช้คอมพิวเตอร์ทั้งหมดช่วยให้ได้คะแนนอย่างเป็นกลาง ไม่มีอคติจากผู้ตรวจ
-
มีวันสอบและศูนย์สอบให้เลือกมากมายทั่วโลก ทำให้สามารถเลือกสอบได้ตามเวลาที่สะดวก
-
ข้อสอบประเมินทักษะทั้งการพูด เขียน อ่าน และฟังในรูปแบบที่ครอบคลุมและสอดคล้องกับการใช้ภาษาในชีวิตจริง
ข้อสอบ PTE ถูกออกแบบมาสำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ และจำเป็นต้องแสดงความสามารถทางภาษาอังกฤษเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการศึกษา การทำงาน หรือการย้ายถิ่นฐาน ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักเรียนที่ต้องการเรียนต่อต่างประเทศ มืออาชีพที่มองหาโอกาสทำงานในระดับสากล หรือผู้ที่กำลังขอวีซ่าไปยังประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ หากคุณกำลังมองหาการสอบวัดระดับภาษาที่รวดเร็ว ยุติธรรม และยืดหยุ่น ข้อสอบ PTE คือคำตอบที่ลงตัว
ประเภทของข้อสอบ PTE
PTE Academic
PTE Academic เป็นประเภทข้อสอบ PTE ที่ได้รับความนิยมและการยอมรับอย่างกว้างขวางที่สุด ถูกออกแบบมาเพื่อประเมินความสามารถทางภาษาอังกฤษของผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ สำหรับวัตถุประสงค์ทางวิชาการ ข้อสอบแบบใช้คอมพิวเตอร์นี้จะวัดทักษะการพูด การเขียน การอ่าน และการฟังในรอบสอบเดียว ซึ่งใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง คะแนนสอบได้รับการยอมรับจากมหาวิทยาลัย วิทยาลัย และหน่วยงานรัฐบาลทั่วโลก เพื่อการเรียนต่อ การทำงาน และการย้ายถิ่นฐาน
PTE Academic UKVI
PTE Academic UKVI เป็นเวอร์ชันเฉพาะของข้อสอบ PTE Academic ที่ได้รับการรับรองโดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแห่งสหราชอาณาจักรในฐานะข้อสอบภาษาอังกฤษที่ปลอดภัย (SELT) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยื่นขอวีซ่าหรือการย้ายถิ่นฐานไปยังสหราชอาณาจักร เช่น การเรียนในระดับต่ำกว่าปริญญาตรี หรือบางประเภทของวีซ่าทำงาน แม้รูปแบบและเนื้อหาของข้อสอบจะใกล้เคียงกับ PTE Academic ทั่วไป แต่เวอร์ชัน UKVI มีมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม และมีรหัสอ้างอิงเฉพาะ (URN) ที่จำเป็นต่อการขอวีซ่า
PTE Home (A1, A2, B1)
PTE Home เป็นชุดข้อสอบภาษาอังกฤษเฉพาะ (ระดับ A1, A2 และ B1) ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ประกอบการยื่นขอวีซ่าและการตั้งถิ่นฐานในสหราชอาณาจักร สำหรับกรณีที่ต้องแสดงความสามารถทางภาษาสำหรับวัตถุประสงค์ด้านครอบครัว การตั้งถิ่นฐาน หรือการขอสัญชาติ ข้อสอบประเภทนี้เน้นการประเมินทักษะการพูดและการฟัง ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถที่จำเป็นในชีวิตประจำวันในสหราชอาณาจักร ต่างจากข้อสอบ PTE ประเภทอื่นที่ให้คะแนนตามสเกล PTE Home จะใช้ระบบสอบผ่านหรือไม่ผ่าน โดยพิจารณาจากระดับ CEFR (กรอบมาตรฐานภาษาแห่งยุโรป)
ข้อสอบ PTE มีอะไรบ้าง?
Speaking & Writing (54-67 minutes)
พาร์ต Speaking & Writing ของข้อสอบ PTE Academic เป็นส่วนแรกและใช้เวลานานที่สุด โดยทั่วไปจะใช้เวลาระหว่าง 54 ถึง 67 นาที พาร์ตนี้เป็นการประเมินทักษะการพูดและการเขียนภาษาอังกฤษผ่านรูปแบบคำถามที่หลากหลาย เช่น อ่านออกเสียง พูดประโยคซ้ำ อธิบายภาพ เล่าเรื่องจากการฟัง ตอบคำถามสั้น ๆ สรุปข้อความจากบทความ และเขียนเรียงความ ข้อสอบส่วนนี้ครอบคลุมทั้งการสื่อสารและความเข้าใจภาษาอังกฤษในบริบททางวิชาการ โดยคำตอบของคุณจะถูกบันทึกเสียงและตรวจคะแนนโดยระบบ AI
Reading (29-30 minutes)
พาร์ต Reading ของข้อสอบ PTE Academic ใช้เวลาประมาณ 29 ถึง 30 นาที โดยจะวัดความสามารถในการอ่านและทำความเข้าใจภาษาอังกฤษในเชิงวิชาการ รูปแบบคำถามในพาร์ตนี้รวมถึงการเลือกคำตอบที่ถูกต้อง การเรียงลำดับย่อหน้า และการเติมคำในช่องว่างจากบทความที่กำหนด ซึ่งล้วนช่วยวัดความเข้าใจ การใช้คำศัพท์ และไวยากรณ์ในระดับที่จำเป็นสำหรับความสำเร็จทางวิชาการ
Listening (30-43 minutes)
พาร์ต Listening ของข้อสอบ PTE Academic ใช้เวลาประมาณ 30 ถึง 43 นาที และประเมินความสามารถในการฟังและเข้าใจภาษาอังกฤษที่ใช้ในสถานการณ์วิชาการและทั่วไป โดยจะมีคลิปเสียงหลากหลายรูปแบบ เช่น การบรรยาย บทสนทนา และข้อความสั้น ๆ ตามด้วยคำถามหลายประเภท เช่น การเลือกคำตอบ เติมคำในช่องว่าง สรุปใจความ และหาคำที่หายไป ความสามารถของผู้สอบในการเข้าใจสำเนียงต่าง ๆ จับใจความสำคัญ และติดตามแนวคิดในบทสนทนาคือสิ่งที่ถูกวัดในส่วนนี้
วิธีลงทะเบียนสอบ PTE และค่าธรรมเนียมการสอบ PTE
วิธีลงทะเบียนสอบ PTE
การลงทะเบียนสอบ PTE เป็นกระบวนการที่สามารถทำได้ง่ายผ่านระบบออนไลน์ เริ่มต้นโดยการสร้างบัญชีบนเว็บไซต์ทางการของ Pearson PTE โดยต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวให้ตรงกับหนังสือเดินทาง (Passport) ที่ยังไม่หมดอายุ ซึ่งเป็นเอกสารแสดงตนที่ใช้ในวันสอบ หลังจากสร้างบัญชีแล้ว ผู้สมัครสามารถเลือกประเภทข้อสอบที่ต้องการสอบ (PTE Academic, UKVI หรือ Home) จากนั้นเลือกศูนย์สอบ วันที่สอบที่สะดวก และดำเนินการกรอกข้อมูลตามแบบฟอร์มและนโยบายต่าง ๆ ให้ครบถ้วน
แนะนำให้จองวันสอบล่วงหน้า โดยเฉพาะในช่วงที่มีผู้สมัครจำนวนมาก เพราะที่นั่งในศูนย์สอบอาจเต็มอย่างรวดเร็ว ควรตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดอย่างละเอียดก่อนยืนยันการจอง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในวันสอบ เมื่อการจองเสร็จสิ้น ผู้สมัครจะได้รับอีเมลยืนยัน พร้อมรายละเอียดทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการเข้าสอบ
ค่าธรรมเนียมการสอบ PTE
ค่าธรรมเนียมการสอบ PTE จะแตกต่างกันไปตามประเภทข้อสอบที่เลือก (PTE Academic, UKVI หรือ Home) และประเทศที่ผู้สมัครทำการสอบ ตัวอย่างเช่น ค่าสอบ PTE Academic มาตรฐานในหลายประเทศอยู่ที่ประมาณ 185 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ในประเทศออสเตรเลียอาจอยู่ที่ประมาณ 475 ดอลลาร์ออสเตรเลีย จึงควรตรวจสอบค่าธรรมเนียมที่แน่นอนจากเว็บไซต์ Pearson PTE สำหรับแต่ละพื้นที่ที่คุณต้องการสอบ นอกจากนี้ หากจองสอบล่าช้า อาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม และหากต้องการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงวันสอบ อาจมีค่าใช้จ่ายหรือการคืนเงินบางส่วน ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ทำการเปลี่ยนแปลงก่อนวันสอบ.
การเตรียมตัวสอบ PTE Test
การเตรียมตัวสำหรับการสอบ PTE Test มีดังนี้
-
ศึกษาและทำความเข้าใจรูปแบบข้อสอบและประเภทคำถามอย่างละเอียด เพื่อเพิ่มความมั่นใจ
-
ฝึกทำข้อสอบอย่างสม่ำเสมอโดยใช้สื่อเตรียมสอบจาก PTE และแบบทดสอบจำลอง เพื่อให้คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมจริงของวันสอบ
-
มุ่งเน้นพัฒนาจุดอ่อนที่พบระหว่างการฝึกฝน ไม่ว่าจะเป็นความคล่องแคล่วในการพูด การเขียนอย่างเป็นระบบ การอ่านจับใจความ หรือทักษะการฟัง
-
วางแผนการบริหารเวลาให้เหมาะสมในแต่ละพาร์ท เพื่อให้สามารถทำข้อสอบได้ครบถ้วนภายในเวลาที่กำหนด
-
เพิ่มพูนคลังคำศัพท์และทบทวนไวยากรณ์ เพราะเป็นพื้นฐานสำคัญในทุกพาร์ทของข้อสอบ
-
ทำความคุ้นเคยกับระบบสอบแบบคอมพิวเตอร์ เช่น การใช้ไมโครโฟนและการนำทางในระบบ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในวันสอบ
-
พิจารณาเรียนคอร์สเตรียมสอบ PTE หรือหาคู่ฝึกซ้อม เพื่อรับคำแนะนำและแรงจูงใจจากเพื่อนร่วมทาง
-
รักษาสุขภาพให้ดี นอนหลับให้เพียงพอ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้พร้อมที่สุดในวันสอบ
โดยสรุป การเข้าใจว่า pte คืออะไร และโครงสร้างข้อสอบโดยรวมอย่างถ่องแท้ ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษนี้ ไม่ว่าจะเป็นระบบให้คะแนนด้วย AI ที่ทันสมัย การประกาศผลรวดเร็ว หรือการได้รับการยอมรับในระดับสากลทั้งด้านการศึกษาและการย้ายถิ่นฐาน PTE จึงกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับการสอบแบบดั้งเดิม