คำกริยาวิเศษณ์ในภาษาอังกฤษ: ความหมาย ประเภท และวิธีการใช้
เคล็ดลับการเรียนรู้ (TH)

คำกริยาวิเศษณ์ในภาษาอังกฤษ: ความหมาย ประเภท และวิธีการใช้

การปรึกษาบทความ:

Hoàng Mỹ Hạnh

Hoàng Mỹ Hạnh

Thạc sĩ Ngôn ngữ - Chuyên gia Giáo dục sớm

ผู้เขียน: Hoàng Hà

วันที่อัปเดต: 19/09/2025

เนื้อหาหลัก

ในภาษาอังกฤษ คำกริยาวิเศษณ์ (Adverbs) เป็นส่วนที่ขาดไม่ได้ในการขยายความหมายของคำกริยา คำคุณศัพท์ หรือประโยค แม้จะเป็นคำเล็ก ๆ แต่ก็มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการสื่อความหมาย มาเรียนรู้ทุกแง่มุมเกี่ยวกับคำกริยาวิเศษณ์ในภาษาอังกฤษและข้อผิดพลาดที่มักพบได้บ่อยกับ Monkey กันเถอะ

คำกริยาวิเศษณ์ในภาษาอังกฤษคืออะไร?

คำกริยาวิเศษณ์ในภาษาอังกฤษ (Adverb) คือคำที่ใช้เพื่อเพิ่มเติมข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะ คุณสมบัติ หรือบริบทให้กับคำประเภทอื่น ๆ โดยคำกริยาวิเศษณ์จะขยายความหมายของคำกริยา คำคุณศัพท์ ประโยค หรือแม้แต่คำกริยาวิเศษณ์อื่น ๆ ยกเว้นคำสรรพนามและคำนาม

โดยเฉพาะ คำกริยาวิเศษณ์ในภาษาอังกฤษใช้เพื่อบรรยายว่า สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นอย่างไร เมื่อไร ที่ไหน ด้วยวิธีใด และในระดับใด

ตัวอย่างเช่น: well (ดี), fully (อย่างเต็มที่), quickly (อย่างรวดเร็ว), mainly (โดยหลัก ๆ), easily (อย่างง่ายดาย) เป็นต้น

คำวิเศษณ์ คือคำที่ใช้เพื่อบอกให้ชัดเจนถึง ลักษณะ วิธีการ เวลา สถานที่ ความถี่ หรือระดับ ของการกระทำหรือเหตุการณ์ (ภาพ: รวบรวมจากอินเทอร์เน็ต)

หน้าที่ของคำกริยาวิเศษณ์ในประโยค

ต่อไปนี้คือหน้าที่หลักของคำกริยาวิเศษณ์ในภาษาอังกฤษ:

ขยายความให้กับคำกริยา (Verb)

นี่คือหน้าที่ที่พบได้บ่อยที่สุดของคำกริยาวิเศษณ์ โดยคำกริยาวิเศษณ์จะช่วยอธิบายว่า การกระทำนั้นเกิดขึ้น อย่างไร, เมื่อไร, ที่ไหน, หรือ ในระดับใด ซึ่งช่วยให้ผู้ฟังหรือผู้อ่านเข้าใจภาพของการกระทำนั้นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ตัวอย่าง:

  • The cat ran excitedly. (แมววิ่งด้วยความตื่นเต้น)

  • Mark finished his homework quickly. (มาร์คทำการบ้านเสร็จอย่างรวดเร็ว)

ขยายความให้กับคำคุณศัพท์ (Adjective)

คำกริยาวิเศษณ์สามารถใช้เพื่อระบุระดับหรือความรุนแรงของคำคุณศัพท์ เช่น มากหรือน้อย แรงหรือเบา ซึ่งช่วยให้ผู้พูดสามารถเน้นหรือผ่อนระดับของอารมณ์ ลักษณะ หรือสถานะได้

ตัวอย่าง:

  • The weather is quite cold. (อากาศค่อนข้างหนาว)

  • She’s absolutely right. (เธอถูกต้องอย่างแน่นอน)

ขยายความให้กับคำกริยาวิเศษณ์อื่น (Adverb)

คำกริยาวิเศษณ์สามารถใช้ร่วมกับคำกริยาวิเศษณ์อื่นเพื่อเพิ่มระดับความหมาย หรือเน้นอารมณ์และจังหวะของประโยคให้เป็นธรรมชาติและมีสีสันยิ่งขึ้น

ตัวอย่าง:

  • David plays volleyball extremely well. (เดวิดเล่นวอลเลย์บอลได้ดีมาก ๆ)

  • Nolan runs very quickly. (โนแลนวิ่งเร็วมาก)

ขยายความให้กับทั้งประโยค

คำกริยาวิเศษณ์บางคำสามารถวางไว้ต้นหรือกลางประโยค เพื่อแสดง ความเห็น, ทัศนคติ, หรือ ความรู้สึก ของผู้พูดต่อเหตุการณ์ที่กล่าวถึง

ตัวอย่าง:

  • Honestly, I didn’t like the movie. (พูดตามตรง ฉันไม่ชอบหนังเรื่องนั้น)

  • Fortunately, no one was injured in the accident. (โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ)

แผนผังความคิด (Mindmap) พื้นฐานของคำวิเศษณ์ในภาษาอังกฤษ (ภาพ: รวบรวมจากอินเทอร์เน็ต)

สัญญาณบ่งบอกและวิธีการสร้างคำกริยาวิเศษณ์ในภาษาอังกฤษ

วิธีการสร้างคำกริยาวิเศษณ์ทั่วไป

คำลงท้าย “-ly” คือสัญลักษณ์หลักของคำกริยาวิเศษณ์ (Adverb) ในภาษาอังกฤษ
คำกริยาวิเศษณ์ส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นโดยการเติม “-ly” ต่อท้ายคำคุณศัพท์ (Adjective)
นี่คือกฎพื้นฐานในการเปลี่ยนคำคุณศัพท์เป็นคำกริยาวิเศษณ์

กฎทั่วไป:

เพื่อเปลี่ยนคำคุณศัพท์ให้เป็นคำกริยาวิเศษณ์ ให้เติม “-ly” ต่อท้ายคำคุณศัพท์

ตัวอย่าง:

  • slow (ช้า) → slowly (อย่างช้า ๆ)
  • quick (เร็ว) → quickly (อย่างรวดเร็ว)

กฎพิเศษในการเติม “-ly”

คำคุณศัพท์เดิม

กฎการเติม “-ly”

ตัวอย่าง

ลงท้ายด้วย -y

เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม -ly

happy → happily

ลงท้ายด้วย -le

ตัด -e แล้วเติม -y

gentle → gently

ลงท้ายด้วย -ic

เติม -ally แทนที่จะเป็น -ly เฉย ๆ

basic → basically

ลงท้ายด้วย -ll

เติม -y ตรง ๆ ได้เลย

full → fully

กรณีไม่เป็นไปตามกฎ (อิริยาบถพิเศษ)

ต้องจดจำเป็นกรณีเฉพาะ

good → well / fast → fast

คำกริยาวิเศษณ์แบบพิเศษ (ไม่เป็นไปตามกฎ)

นอกจากคำกริยาวิเศษณ์ที่สร้างตามกฎปกติ (adj + -ly) แล้ว ภาษาอังกฤษยังมีคำกริยาวิเศษณ์พิเศษที่:

  • มีรูปเหมือนกับคำคุณศัพท์ (ไม่เติม -ly)

  • มีสองรูปแบบ โดยแต่ละรูปมีความหมายต่างกัน

  • ไม่เป็นไปตามกฎใด ๆ เลย (irregular)

ตัวอย่างคำกริยาวิเศษณ์พิเศษที่พบบ่อย:

คำคุณศัพท์

คำกริยาวิเศษณ์ทั่วไป

คำกริยาวิเศษณ์พิเศษ

fast

fast (เร็ว)

hard

hardly (แทบจะไม่)

hard (อย่างหนัก)

late

lately (เมื่อไม่นานมานี้)

late (สาย)

good

well (ดี)

high

highly (อย่างมาก)

high (สูง)

near

nearly (เกือบจะ)

near (ใกล้)

deep

deeply (อย่างลึกซึ้ง)

deep (ลึก)

short

shortly (ในไม่ช้า)

short (สั้น)

free

freely (อย่างอิสระ)

free (ฟรี/ไม่เสียเงิน)

clear

clearly (อย่างชัดเจน)

clear (ชัดเจน)

ตำแหน่งของคำกริยาวิเศษณ์ในภาษาอังกฤษ

เพื่อให้เป็นไปตามโครงสร้างไวยากรณ์ภาษาอังกฤษอย่างถูกต้อง การวางตำแหน่งของคำกริยาวิเศษณ์ต้องสอดคล้องกับหน้าที่ของมันในประโยค แม้จะไม่มีตำแหน่งตายตัวแน่นอน แต่ก็ควรจดจำกฎพื้นฐานเพื่อวางคำกริยาวิเศษณ์ให้เหมาะสมในแต่ละบริบท

วางไว้หน้าประโยค

คำกริยาวิเศษณ์สามารถวางไว้ต้นประโยค เพื่อขยายความหมายให้กับทั้งประโยค และช่วยให้ข้อความมีความชัดเจน ลื่นไหล และสื่อสารได้ดีขึ้น

ตัวอย่าง:

  • Suddenly, the argument developed into a real fight. (จู่ ๆ การโต้เถียงก็กลายเป็นการทะเลาะจริงจัง)

  • Surprisingly, he agreed straight away. (น่าแปลกใจที่เขาตกลงทันที)

วางไว้หลังคำกริยาหลัก หรือท้ายประโยค

  • ตำแหน่งทั่วไปของคำกริยาวิเศษณ์ คือวางไว้หลังคำกริยา เพื่อขยายความการกระทำ หรือวางไว้ท้ายประโยค

ตัวอย่าง: The ground dried up quickly after the rain. (พื้นดินแห้งอย่างรวดเร็วหลังฝนตก)

  • แต่ หากเป็นคำกริยาวิเศษณ์ที่แสดงความถี่ (Adverbs of Frequency) เช่น usually, always, often,…
    คำเหล่านี้จะวางไว้ หน้าคำกริยา ที่มันขยายความ

ตัวอย่าง: We usually go to the restaurant on Sundays. (เรามักจะไปร้านอาหารในวันอาทิตย์)

วางไว้หน้าคำคุณศัพท์ หรือคำกริยาวิเศษณ์อื่น

คำกริยาวิเศษณ์มักวางไว้ หน้าคำคุณศัพท์ เพื่อเน้นระดับหรือความรุนแรงของคุณลักษณะนั้น
และยังสามารถวาง หน้าคำกริยาวิเศษณ์อื่น เพื่อเสริมระดับความหมายของมัน

ตัวอย่าง:

  • Penicillin was an extremely significant medical discovery. (เพนิซิลลินเป็นการค้นพบทางการแพทย์ที่สำคัญอย่างยิ่ง)

  • I'm afraid I'm not expressing myself very clearly. (เกรงว่าฉันอาจจะอธิบายตัวเองไม่ชัดเจนนัก)

สัญญาณบ่งบอกคำกริยาวิเศษณ์ในภาษาอังกฤษ

ในการระบุคำกริยาวิเศษณ์ (Adverb) ในประโยค เรามักจะดูจาก คำลงท้าย “-ly” ที่อยู่หลังคำนั้น อย่างไรก็ตาม ยังมีคำกริยาวิเศษณ์จำนวนหนึ่งที่ ไม่ได้ลงท้ายด้วย “-ly” และไม่เป็นไปตามกฎนี้

คำกริยาวิเศษณ์ที่มีคำลงท้าย “-ly”

เป็นรูปแบบที่พบได้บ่อยที่สุดในภาษาอังกฤษ

ตัวอย่าง:

  • quickly (อย่างรวดเร็ว)

  • slowly (อย่างช้า ๆ)

  • carefully (อย่างระมัดระวัง)

  • beautifully (อย่างสวยงาม)

คำกริยาวิเศษณ์ที่ไม่มีคำลงท้าย “-ly”

คำเหล่านี้ต้องจดจำเป็นพิเศษ เนื่องจากไม่ได้มีรูปแบบเหมือนทั่วไป

ตัวอย่าง:

  • well (ดี)

  • never (ไม่เคย)

  • often (บ่อยครั้ง)

  • very (มาก)

คำกริยาวิเศษณ์ที่มีรูปเหมือนกับคำคุณศัพท์

คำเหล่านี้มีลักษณะภายนอกเหมือนคำคุณศัพท์ แต่จริง ๆ ทำหน้าที่เป็นคำกริยาวิเศษณ์ ขึ้นอยู่กับบริบทในประโยค

ตัวอย่าง:

  • daily (ทุกวัน)

  • early (แต่เช้า)

  • weekly (ทุกสัปดาห์)

  • monthly (ทุกเดือน)

  • yearly (ทุกปี)

  • fast (อย่างเร็ว)

  • hard (อย่างหนัก)

สัญญาณบ่งบอกคำกริยาวิเศษณ์ในภาษาอังกฤษ (ภาพ: รวบรวมจากอินเทอร์เน็ต)

ประเภทของคำกริยาวิเศษณ์ในภาษาอังกฤษและวิธีการใช้

คำกริยาวิเศษณ์บอก "ลักษณะ / วิธีการ (Adverbs of Manner)"

ความหมาย: ใช้เพื่อบอกถึง วิธีการ, ท่าที, หรือ ลักษณะ ที่การกระทำนั้นเกิดขึ้น

ตำแหน่งในประโยค: วางไว้หลังคำกริยาหลัก หรือหลังกรรม / ท้ายประโยค

ตัวอย่างคำศัพท์:

  • angrily (อย่างโกรธ)

  • accurately (อย่างแม่นยำ)

  • bravely (อย่างกล้าหาญ)

  • politely (อย่างสุภาพ)

  • carelessly (อย่างสะเพร่า)

  • easily (อย่างง่ายดาย)

  • happily (อย่างมีความสุข)

  • lazily (อย่างขี้เกียจ)

  • loudly (อย่างเสียงดัง)

  • expertly (อย่างชำนาญ)

  • professionally (อย่างมืออาชีพ)

  • anxiously (อย่างวิตกกังวล)

  • carefully (อย่างระมัดระวัง)

  • greedily (อย่างตะกละ)

  • quickly (อย่างรวดเร็ว)

  • cautiously (อย่างรอบคอบ)

ตัวอย่างประโยค:

  • Nolan can remember clearly. (โนแลนสามารถจำได้อย่างชัดเจน)

  • Henry failed because he did it carelessly. (เฮนรี่ล้มเหลวเพราะเขาทำอย่างสะเพร่า)

คำกริยาวิเศษณ์บอก "เวลา (Adverbs of Time)"

ความหมาย: ใช้เพื่อบอก เวลา, ลำดับ, หรือ ระยะเวลา ที่การกระทำเกิดขึ้น

ตำแหน่งในประโยค: มักวางไว้ท้ายประโยค

ตัวอย่างคำศัพท์:

  • lately (เมื่อเร็ว ๆ นี้)

  • still (ยังคง)

  • tomorrow (วันพรุ่งนี้)

  • early (เช้า)

  • now (ตอนนี้)

  • soon (ในไม่ช้า)

  • yesterday (เมื่อวาน)

  • finally (ในที่สุด)

  • recently (เมื่อไม่นานมานี้)

ตัวอย่างประโยค:

  • Lisa met David at a coffee shop yesterday. (ลิซ่าพบเดวิดที่ร้านกาแฟเมื่อวานนี้)

  • Sophia joined the yoga class last week. (โซเฟียเข้าเรียนโยคะเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว)

คำกริยาวิเศษณ์บอก "สถานที่ (Adverbs of Place)"

ความหมาย: ใช้เพื่อบอก ตำแหน่ง, ทิศทาง, หรือ ระยะทาง ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำ

ตำแหน่งในประโยค: มักวางไว้หลังคำกริยาหลัก / ท้ายประโยค หรือบางครั้งไว้ต้นประโยคเพื่อเน้น

ตัวอย่างคำศัพท์:

  • here (ที่นี่)

  • there (ที่นั่น)

  • everywhere (ทุกที่)

  • somewhere (ที่ใดที่หนึ่ง)

  • anywhere (ที่ใดก็ได้)

  • nowhere (ไม่มีที่ไหนเลย)

  • nearby (ใกล้ ๆ)

  • inside (ข้างใน)

  • outside (ข้างนอก)

ตัวอย่างประโยค:

  • She stays there to wait for him. (เธออยู่ที่นั่นเพื่อรอเขา)

  • I went around to know more about this city. (ฉันเดินไปรอบ ๆ เพื่อรู้จักเมืองนี้มากขึ้น)

คำกริยาวิเศษณ์บอก "ความถี่ (Adverbs of Frequency)"

  • ความหมาย: ใช้เพื่อบอกว่า บางสิ่งเกิดขึ้นบ่อยแค่ไหน หรือ ความสม่ำเสมอของเหตุการณ์

  • ตำแหน่งในประโยค: วางไว้ หน้าคำกริยาหลัก

  • หรือ หลัง “to be”

  • หรือ ระหว่าง auxiliary verb กับ verb หลัก

ตัวอย่างคำศัพท์:

  • always (เสมอ)

  • usually (มักจะ)

  • frequently (บ่อยครั้ง)

  • often (บ่อย ๆ)

  • sometimes (บางครั้ง)

  • occasionally (เป็นครั้งคราว)

  • seldom (ไม่ค่อย)

  • rarely (แทบจะไม่)

  • hardly ever (แทบไม่เคย)

  • never (ไม่เคย)

ตัวอย่างประโยค:

  • Lan rarely goes to school late. (แหลนแทบไม่เคยไปโรงเรียนสาย)

  • Tom hardly did any exercises incorrectly. (ทอมแทบจะไม่ทำแบบฝึกหัดผิดเลย)

คำกริยาวิเศษณ์บอก "ระดับ / ปริมาณ (Adverbs of Degree)"

ความหมาย: ใช้เพื่อเน้นหรือระบุ ระดับของการกระทำ, คุณภาพ หรือสถานะ

ตำแหน่งในประโยค:

  • วาง หน้าคำคุณศัพท์ / คำกริยาวิเศษณ์ / คำกริยา

  • หรือบางครั้ง อยู่กลางประโยคเพื่อเน้น

ตัวอย่างคำศัพท์:

  • very (มาก)

  • extremely (อย่างมาก)

  • quite (ค่อนข้าง)

  • too (เกินไป)

  • rather (ค่อนข้างจะ)

  • almost (เกือบ)

  • barely (แทบจะไม่พอ)

  • absolutely (อย่างแท้จริง)

  • perfectly (อย่างสมบูรณ์)

  • highly (อย่างยิ่ง)

  • exceedingly (อย่างมากมาย)

  • hardly (แทบจะไม่)

ตัวอย่างประโยค:

  • Talia goes too slowly. We can’t wait for her. (ทาเลียเดินช้าเกินไป เรารอเธอไม่ไหว)

  • You have done this perfectly. (คุณทำสิ่งนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ)

คำกริยาวิเศษณ์พิเศษอื่น ๆ

แม้ไม่ใช่กลุ่มหลัก แต่คำกริยาวิเศษณ์เหล่านี้ก็ มีบทบาทสำคัญ เช่นกัน

คำกริยาวิเศษณ์บอก "ปริมาณ": ใช้บอก มากหรือน้อย, วางหน้าคำกริยาหรือคำคุณศัพท์
ตัวอย่าง:

  • almost (เกือบ)

  • just (เพิ่งจะ / แค่)

  • only (เท่านั้น)

คำกริยาวิเศษณ์คำถาม (Question Adverbs): วางไว้ต้นประโยคเพื่อถาม
ตัวอย่าง:

  • how (อย่างไร)

  • when (เมื่อไร)

  • why (ทำไม)

  • where (ที่ไหน)

คำกริยาวิเศษณ์เชื่อมโยง (Conjunctive Adverbs): ใช้เชื่อมข้อความ หรือประโยค
ตัวอย่าง:

  • therefore (ดังนั้น)

  • thus (เพราะฉะนั้น)

  • additionally (นอกจากนี้)

  • moreover (ยิ่งไปกว่านั้น)

  • then (จากนั้น)

  • next (ถัดไป)

ตัวอย่างประโยค:

  • Amber almost cried when she saw the letter. (แอมเบอร์แทบจะร้องไห้เมื่อเธอเห็นจดหมายนั้น)

  • Why is she upset? (ทำไมเธอถึงเสียใจ)

  • I remember the day when we first met. (ฉันจำวันที่เราเจอกันครั้งแรกได้)

ใช้สัญญาณพิเศษในการระบุคำกริยา (ภาพ: รวบรวมจากอินเทอร์เน็ต)

ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการใช้คำกริยาวิเศษณ์ในภาษาอังกฤษ และวิธีแก้ไข

วางคำกริยาวิเศษณ์ผิดตำแหน่ง

ตัวอย่างที่ผิด: He usually is the first person to come to the office.

ประโยคนี้ผิดเนื่องจากคำกริยาวิเศษณ์ "usually" ถูกวางไว้หน้าคำกริยา “to be” ซึ่งไม่ถูกต้องในภาษาอังกฤษ คำกริยาวิเศษณ์ควรวางไว้หลังคำกริยา “to be”

ประโยคที่ถูกต้อง: He is usually the first person to come to the office.

ใช้คำกริยาวิเศษณ์ผิดในรูปแบบขั้นกว่า

เมื่อใช้คำกริยาวิเศษณ์ที่มีสองพยางค์ขึ้นไปในรูปเปรียบเทียบขั้นกว่า ต้องใช้ “more” นำหน้าคำกริยาวิเศษณ์ แทนการเติม "-er"

  • ตัวอย่างที่ผิด: I can make it quicklier.

  • ประโยคที่ถูกต้อง: I can make it more quickly.

สับสนระหว่างคำคุณศัพท์กับคำกริยาวิเศษณ์

คำกริยาเช่น look, feel, sound, smell, taste เป็นคำกริยาแสดงความรู้สึกหรือสภาพ จึงต้องตามด้วยคำคุณศัพท์ ไม่ใช่คำกริยาวิเศษณ์

  • ตัวอย่างที่ผิด: He looks tiredly after a long day.

  • ประโยคที่ถูกต้อง: He looks tired after a long day.

นอกจากนี้ ยังมีคำบางคู่ที่มีลักษณะคล้ายกันแต่ความหมายต่างกัน เช่น:

Good / Well:

  • Damian is a good singer.

  • Damian sings well.

Hard / Hardly:

  • She studies hard for the exam.

  • She hardly studies at all.

ใช้รูปเปรียบเทียบของคำกริยาวิเศษณ์ผิด

  • คำกริยาวิเศษณ์สั้น เช่น fast, hard, late ใช้การเติม "-er" หรือ "-est"

  • คำกริยาวิเศษณ์ยาว เช่นคำที่ลงท้ายด้วย "-ly" ใช้ "more" หรือ "most"

ตัวอย่างผิด:

  • She runs more fast than her brother.

  • Tom speaks the clearest of all.

ประโยคที่ถูกต้อง:

  • She runs faster than her brother.

  • Tom speaks the most clearly of all.

แบบฝึกหัดการใช้คำวิเศษณ์ในภาษาอังกฤษ (พร้อมเฉลย)

แบบฝึกหัด 1: เลือกรูปแบบที่ถูกต้องของคำในวงเล็บ

  1. She …………… reads a newspaper. (quick)

  2. Hoa is a …………… girl. (pretty)

  3. Duc is a …………… student. (good)

  4. You can …………… open this window. (easy)

  5. Minh sang the song ……………. (good)

  6. I am a …………… driver. (care)

  7. My dog barks ……………. (loud)

  8. The children play …………… in the garden. (happy)

  9. They made a …………… decision. (quick)

  10. Please speak ……………. I can’t hear you. (clear)

เฉลย:

  1. Quickly

  2. Pretty

  3. Good

  4. Easily

  5. Well

  6. Careful

  7. Loudly

  8. Happily

  9. Quickly

  10. Clearly

แบบฝึกหัด 2: เติมคำวิเศษณ์ที่เหมาะสมในช่องว่าง

  1. It is an easy mission. We can do it ___.
    A. Quickly
    B. Hard
    C. Noisy
    D. Loud

  2. He always works. He works very ___.
    A. Careful
    B. Soft
    C. Hard
    D. Bad

  3. My mother is a careful person. She ___ does everything ___.
    A. Usually / Careful
    B. Never / Carelessly
    C. Often / Carefully
    D. Sometimes / Good

  4. He is good at playing the guitar. He plays guitar ___.
    A. Well
    B. Better
    C. Best
    D. Good

  5. It is not easy to do. He is working ___.
    A. Hardly
    B. Careful
    C. Slowly
    D. Patiently

  6. He ran ___ to catch the last bus.
    A. Immediately
    B. Quickly
    C. Softly
    D. Kindly

  7. My boss always arrives ___ before 8 a.m.
    A. Slowly
    B. Well
    C. Late
    D. Punctually

  8. Did she answer you ___? – Yes, I think she was honest.
    A. Kindly
    B. Clearly
    C. Honestly
    D. Coldly

  9. We need to react ___ if we want to solve the problem.
    A. Lazily
    B. Immediately
    C. Loudly
    D. Heavily

  10. I can’t hear you. Please speak more ___.
    A. Quietly
    B. Slowly
    C. Clearly
    D. Correctly

เฉลย:

  1. A

  2. C

  3. C

  4. A

  5. C

  6. B

  7. D

  8. C

  9. B

  10. C

แบบฝึกหัด 3: เรียงลำดับคำวิเศษณ์ในประโยคให้ถูกต้อง

  1. She / eats / always / lunch / at 12 o’clock.

  2. They have / their homework / finished / already.

  3. I / late / go / to bed / rarely.

  4. Does / your brother / play / football / often?

  5. The teacher / explained / clearly / the lesson.

  6. He / his hands / carefully / washed / before dinner.

  7. We / can / understand / easily / the instruction.

  8. She / speaks / French / in class / fluently / every day.

  9. Why / was / he / yesterday / so / late / at work?

  10. The children / have / at school / been / probably / all day.

เฉลย:

  1. She always eats lunch at 12 o’clock.

  2. They have already finished their homework.

  3. I rarely go to bed late.

  4. Does your brother often play football?

  5. The teacher clearly explained the lesson.

  6. He carefully washed his hands before dinner.

  7. We can easily understand the instruction.

  8. She speaks French fluently in class every day.

  9. Why was he so late at work yesterday?

  10. The children have probably been at school all day.

บทสรุป

ดังนั้น คำวิเศษณ์ในภาษาอังกฤษแม้จะเป็นส่วนเล็ก ๆ แต่มีผลกระทบอย่างมากต่อความชัดเจนและความลื่นไหลของประโยค หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจคำวิเศษณ์มากขึ้น และสามารถนำไปใช้ได้อย่างเป็นธรรมชาติและถูกต้อง

ข้อมูลในบทความนี้ถูกรวบรวมขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการอ้างอิงเท่านั้น และอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า กรุณาตรวจสอบข้อมูลผ่านช่องทางอย่างเป็นทางการ หรือติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงเพื่อรับทราบข้อมูลล่าสุด

บทความล่าสุด

ลงทะเบียนรับคำปรึกษา

และโปรโมชั่น Monkey Stories