กริยาช่วยคืออะไร? วิธีใช้กริยาช่วยในภาษาอังกฤษ
เคล็ดลับการเรียนรู้ (TH)

กริยาช่วยคืออะไร? วิธีใช้กริยาช่วยในภาษาอังกฤษ

การปรึกษาบทความ:

Hoàng Mỹ Hạnh

Hoàng Mỹ Hạnh

Thạc sĩ Ngôn ngữ - Chuyên gia Giáo dục sớm

ผู้เขียน: Ngân Hà

วันที่อัปเดต: 10/10/2025

เนื้อหาหลัก

ในโครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษทุกแบบ กริยาช่วยมีบทบาทสำคัญร่วมกับกริยาหลักและคำคุณศัพท์ เพราะช่วยให้การสื่อความหมายมีความชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การเข้าใจกริยาช่วยอย่างเชี่ยวชาญยังช่วยให้คุณทำข้อสอบภาษาอังกฤษได้ดีขึ้นอีกด้วย ในบทความนี้ Monkey จะอธิบายให้คุณเข้าใจว่ากริยาช่วยคืออะไรและควรใช้เมื่อใดจึงจะถูกต้อง

กริยาช่วยคืออะไร?

กริยาช่วยเป็นกริยาที่วางไว้หน้ากริยาหลัก เพื่อเพิ่มความหมายทางไวยากรณ์หรือหน้าที่ของประโยค มักใช้เพื่อสร้างประโยคปฏิเสธ ประโยคคำถามแบบใช่หรือไม่ (yes-no question) หรือเพื่อเน้นข้อมูลบางส่วนในประโยค

ตัวอย่างกริยาช่วยในภาษาอังกฤษ:

  • She is studying in an art institute. (กริยาช่วย“is”ใช้ในการสร้างประโยคpresent continuous tense.)

  • The mountains have brought forth a mouse. (กริยาช่วย“have”ใช้ในการสร้างประโยคpresent perfect tense.)

  • Did you go to bed late last night? (กริยาช่วย“did”ใช้ในการสร้างประโยคคำถาม.)

กริยาช่วยในภาษาอังกฤษ (ภาพ: อินเทอร์เน็ต)

ประเภทของกริยาช่วยในภาษาอังกฤษ

ในภาษาอังกฤษมีกริยาช่วยทั้งหมด 13 คำ แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักคือ:

1. กริยาช่วยหลัก (Primary Auxiliary Verbs)

ได้แก่ be, have และ do

กริยาช่วยเหล่านี้ใช้ในการสร้างกาลที่ซับซ้อน เช่น present perfect หรือ continuous tense นอกจากนี้ยังช่วยสร้างประโยคในรูป passive voice และใช้เพื่อเน้นข้อมูลบางอย่างผ่าน tag question

หมายเหตุ: กริยาเหล่านี้สามารถทำหน้าที่เป็นกริยาหลักได้เช่นกัน เพื่อแยกแยะว่าคำเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นกริยาช่วยหรือกริยาหลัก ให้สังเกตว่ามีคำกริยาที่สองในประโยคหรือไม่

  • [กริยาหลัก] I did my homework already.

  • [กริยาช่วย] I did not want to go home.

2. กริยาช่วยประเภทโมดอล (Modal Auxiliary Verbs)

ได้แก่ can, could, may, might, need, must, ought, dare, will, would, shall, should

กริยาช่วยประเภทโมดอลใช้เพื่อเปลี่ยนน้ำเสียงหรือเจตนาของประโยค แสดงถึงความสามารถ ความเป็นไปได้ ความจำเป็น หรือความตั้งใจในอนาคต

  • It might rain. (ความเป็นไปได้)

  • It can rain. (ความสามารถ)

  • It must rain. (ความจำเป็น)

  • It will rain. (อนาคต)

กริยาช่วยประเภทโมดอลมักตามด้วยกริยารูปพื้นฐาน (base form) ของกริยาหลัก

ตัวอย่าง:

  1. A match will set fire to a large building.

  2. May I clear the plates off the table

ในรูปอดีตกาล กริยาช่วยบางคำจะเปลี่ยนรูปดังนี้:

  • can -> could

  • will -> would

  • shall -> should

  • may -> might

  • must -> ought to

ประเภทของกริยาช่วยในภาษาอังกฤษ (ภาพ: อินเทอร์เน็ต)

วิธีใช้กริยาช่วยหลักในภาษาอังกฤษ

1. การสร้างกาลของคำกริยา 

กริยาช่วยมีบทบาทในการสร้างรูปกาลต่างๆ ของคำกริยา เพื่อบ่งบอกเวลาและบริบท ทำให้การสื่อสารชัดเจนยิ่งขึ้น

ประเภทของกาล

ตัวอย่าง

Future Tense (will)

She will book the movie ticket tomorrow.

Continuous Tense

I am going to the movie theater.

Perfect Tense

He had forgotten to wind his watch.

2. การสร้างประโยคคำถามแบบใช่หรือไม่

ในภาษาอังกฤษ ประโยคคำถามแบบใช่หรือไม่มักเริ่มต้นด้วยกริยาช่วย เช่น do หรือกริยาโมดอล (modal verb) สำหรับ present perfect tense ให้ใช้คำว่า have

ตัวอย่าง:

  1. Did you have a good time

  2. Can you mend this broken chair

  3. Have you prepared for your interview

3. การสร้างประโยคคำถามต่อท้าย

Tag question ใช้ต่อท้ายประโยคเพื่อยืนยันหรือเช็กข้อมูล โดยต้องใช้กริยาช่วยและสรรพนามที่สอดคล้องกับประโยคหลัก

ตัวอย่าง:

  1. You have met Ben's new girlfriend, haven’t you

  2. He looks really handsome in his uniform, doesn’t he

  3. It is very hot today, isn’t it

4. การสร้างประโยคปฏิเสธ

ให้เติมคำว่า not หลังคำกริยาช่วยเพื่อสร้างประโยคปฏิเสธ

ตัวอย่าง:

  1. It does not have a price label on it.

  2. He did not reply to her question right away.

หมายเหตุ: คำว่า never มีความหมายเชิงปฏิเสธอยู่แล้ว จึงไม่ต้องใช้กริยาช่วย (She never understands algebra.)

วิธีใช้กริยาช่วยหลักในภาษาอังกฤษ (ภาพ: อินเทอร์เน็ต)

5. การเน้นย้ำแนวคิดสำคัญ

สามารถเพิ่มกริยาช่วย do เพื่อเน้นย้ำความหมายของประโยคได้

ตัวอย่าง:

  • A: Did your mom find the mess

  • B: She did find it.

  • A: You probably do not want to come.

  • B: I do want to come

6. การสร้างประโยคในรูป Passive Voice

ประโยคส่วนใหญ่ในภาษาอังกฤษใช้รูป Active voice แต่เมื่อผู้กระทำไม่สำคัญหรือไม่ทราบ ให้ใช้รูป Passive voice โดยใช้กริยาช่วย be

ตัวอย่าง:

  • [กริยาหลัก] The man leads his dog.

  • [กริยาช่วย] The dog is led by the man.

วิธีใช้กริยาช่วยประเภทโมดอล

กริยาช่วยประเภทโมดอลใช้เพื่อแสดงทัศนคติ ความเป็นไปได้ หน้าที่ หรือสถานการณ์สมมติ ต่อไปนี้คือวิธีการใช้งาน:

กริยาช่วย

คำอธิบายการใช้

ตัวอย่าง

should, must

แสดงถึงการกระทำที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นหรือเป็นสิ่งจำเป็น

The tree must be bent while it is young.

could, may, might

แสดงถึงความเป็นไปได้

It might rain later.

can

แสดงถึงความสามารถ

Love can turn the cottage into a golden palace.

can, may, could

ใช้เพื่อขออนุญาตอย่างสุภาพ

May I see your passport please?

will, would, can, could

ใช้เพื่อขอความช่วยเหลือหรือคำร้องอย่างสุภาพ

Could you call a taxi for me?

should

ใช้เพื่อให้คำแนะนำหรือข้อเสนอแนะ

You should always tell the truth.

must, have to, need to

ใช้เพื่อแสดงถึงความจำเป็นหรือหน้าที่ที่ต้องทำอย่างเคร่งครัด

You need to change your eating habits.

will, would, used to

ใช้เพื่ออธิบายนิสัยหรือการกระทำที่เกิดขึ้นซ้ำๆ

I will arrive early and leave late every time.

แบบฝึกหัดกริยาช่วยพร้อมคำตอบ

แบบฝึกหัดที่ 1: เลือกกริยาช่วยที่ถูกต้อง

  1. You (must / should not / should) be 18 before you can drive in Japan.

  2. You (do not / must not / have to / should not) go to bed so late.

  3. You (must / need not / must not) come. She can do it without you.

  4. You (must / do not have to / must not) copy during exams.

  5. Harry (does not have to / should not / must not) be very tall to play football.

แบบฝึกหัดที่ 2: เติมคำให้ถูกต้องโดยใช้ can, could หรือ might

  1. It … rain later, so we should bring umbrellas.

  2. … you please pass me the salt

  3. I am not sure if I … make it to the party tonight.

  4. When I was younger, I … climb trees.

  5. … I use your phone to make a call

แบบฝึกหัดที่ 3: เติมรูปที่ถูกต้องของ do, does หรือ did

  1. She … her homework every day.

  2. … they play soccer on weekends

  3. He … his breakfast this morning.

  4. … you like to dance

  5. We … a great time at the party last night.

แบบฝึกหัดกริยาช่วยพร้อมคำตอบ (ภาพ: อินเทอร์เน็ต)

คำตอบ

แบบฝึกหัดที่ 1

  1. must

  2. should not

  3. need not

  4. must not

  5. does not have to

แบบฝึกหัดที่ 2

  1. might

  2. Could

  3. could

  4. could

  5. Can

แบบฝึกหัดที่ 3

  1. does

  2. Do

  3. did

  4. Do

  5. had

Monkey Junior - เส้นทางการเรียนรู้ภาษาอังกฤษที่ครอบคลุมสำหรับเด็ก

Monkey Junior เป็นแอปพลิเคชันสอนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กอายุ 0-11 ปี ที่ช่วยให้เด็กพัฒนาทักษะ ฟัง พูด อ่าน เขียน อย่างครบวงจร ผ่านเกมและกิจกรรมที่สนุกสนาน เด็กๆ จะได้เรียนรู้คำศัพท์กว่า 3,000 คำ พร้อมฝึกออกเสียงกับเจ้าของภาษาโดยตรงด้วยเทคโนโลยี AI อัจฉริยะ คอร์สของ Monkey Junior ออกแบบตามระดับความสามารถของเด็ก ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงระดับสูง ช่วยให้เด็กเข้าใจโครงสร้างภาษาอังกฤษ รวมถึงกริยาช่วย (Auxiliary Verbs) ได้อย่างเป็นธรรมชาติและมั่นใจในการใช้ภาษาในชีวิตจริง

รับส่วนลด 50% ทันที!

Monkey Junior - เส้นทางการเรียนรู้ภาษาอังกฤษที่ครอบคลุมสำหรับเด็ก

สรุปได้ว่ากริยาช่วยเป็นส่วนสำคัญของประโยคภาษาอังกฤษที่ช่วยให้การสื่อสารมีความชัดเจนและเป็นธรรมชาติมากขึ้นไม่ว่าจะใช้สร้างประโยคคำถามประโยคปฏิเสธหรือแสดงกาลต่างๆการเข้าใจวิธีใช้กริยาช่วยอย่างถูกต้องจะช่วยพัฒนาทักษะการพูดและการเขียนภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจหากคุณกำลังเริ่มเรียนภาษาอังกฤษอย่าลืมฝึกเรื่องกริยาช่วยเพราะเป็นพื้นฐานสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

ข้อมูลในบทความนี้ถูกรวบรวมขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการอ้างอิงเท่านั้น และอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า กรุณาตรวจสอบข้อมูลผ่านช่องทางอย่างเป็นทางการ หรือติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงเพื่อรับทราบข้อมูลล่าสุด

บทความล่าสุด

ลงทะเบียนรับคำปรึกษา

และโปรโมชั่น Monkey Stories