ในโครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษทุกแบบ กริยาช่วยมีบทบาทสำคัญร่วมกับกริยาหลักและคำคุณศัพท์ เพราะช่วยให้การสื่อความหมายมีความชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การเข้าใจกริยาช่วยอย่างเชี่ยวชาญยังช่วยให้คุณทำข้อสอบภาษาอังกฤษได้ดีขึ้นอีกด้วย ในบทความนี้ Monkey จะอธิบายให้คุณเข้าใจว่ากริยาช่วยคืออะไรและควรใช้เมื่อใดจึงจะถูกต้อง
กริยาช่วยคืออะไร?
กริยาช่วยเป็นกริยาที่วางไว้หน้ากริยาหลัก เพื่อเพิ่มความหมายทางไวยากรณ์หรือหน้าที่ของประโยค มักใช้เพื่อสร้างประโยคปฏิเสธ ประโยคคำถามแบบใช่หรือไม่ (yes-no question) หรือเพื่อเน้นข้อมูลบางส่วนในประโยค
ตัวอย่างกริยาช่วยในภาษาอังกฤษ:
-
She is studying in an art institute. (กริยาช่วย“is”ใช้ในการสร้างประโยคpresent continuous tense.)
-
The mountains have brought forth a mouse. (กริยาช่วย“have”ใช้ในการสร้างประโยคpresent perfect tense.)
-
Did you go to bed late last night? (กริยาช่วย“did”ใช้ในการสร้างประโยคคำถาม.)
ประเภทของกริยาช่วยในภาษาอังกฤษ
ในภาษาอังกฤษมีกริยาช่วยทั้งหมด 13 คำ แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักคือ:
1. กริยาช่วยหลัก (Primary Auxiliary Verbs)
ได้แก่ be, have และ do
กริยาช่วยเหล่านี้ใช้ในการสร้างกาลที่ซับซ้อน เช่น present perfect หรือ continuous tense นอกจากนี้ยังช่วยสร้างประโยคในรูป passive voice และใช้เพื่อเน้นข้อมูลบางอย่างผ่าน tag question
หมายเหตุ: กริยาเหล่านี้สามารถทำหน้าที่เป็นกริยาหลักได้เช่นกัน เพื่อแยกแยะว่าคำเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นกริยาช่วยหรือกริยาหลัก ให้สังเกตว่ามีคำกริยาที่สองในประโยคหรือไม่
-
[กริยาหลัก] I did my homework already.
-
[กริยาช่วย] I did not want to go home.
2. กริยาช่วยประเภทโมดอล (Modal Auxiliary Verbs)
ได้แก่ can, could, may, might, need, must, ought, dare, will, would, shall, should
กริยาช่วยประเภทโมดอลใช้เพื่อเปลี่ยนน้ำเสียงหรือเจตนาของประโยค แสดงถึงความสามารถ ความเป็นไปได้ ความจำเป็น หรือความตั้งใจในอนาคต
-
It might rain. (ความเป็นไปได้)
-
It can rain. (ความสามารถ)
-
It must rain. (ความจำเป็น)
-
It will rain. (อนาคต)
กริยาช่วยประเภทโมดอลมักตามด้วยกริยารูปพื้นฐาน (base form) ของกริยาหลัก
ตัวอย่าง:
-
A match will set fire to a large building.
-
May I clear the plates off the table
ในรูปอดีตกาล กริยาช่วยบางคำจะเปลี่ยนรูปดังนี้:
-
can -> could
-
will -> would
-
shall -> should
-
may -> might
-
must -> ought to
วิธีใช้กริยาช่วยหลักในภาษาอังกฤษ
1. การสร้างกาลของคำกริยา
กริยาช่วยมีบทบาทในการสร้างรูปกาลต่างๆ ของคำกริยา เพื่อบ่งบอกเวลาและบริบท ทำให้การสื่อสารชัดเจนยิ่งขึ้น
ประเภทของกาล |
ตัวอย่าง |
Future Tense (will) |
She will book the movie ticket tomorrow. |
Continuous Tense |
I am going to the movie theater. |
Perfect Tense |
He had forgotten to wind his watch. |
2. การสร้างประโยคคำถามแบบใช่หรือไม่
ในภาษาอังกฤษ ประโยคคำถามแบบใช่หรือไม่มักเริ่มต้นด้วยกริยาช่วย เช่น do หรือกริยาโมดอล (modal verb) สำหรับ present perfect tense ให้ใช้คำว่า have
ตัวอย่าง:
-
Did you have a good time
-
Can you mend this broken chair
-
Have you prepared for your interview
3. การสร้างประโยคคำถามต่อท้าย
Tag question ใช้ต่อท้ายประโยคเพื่อยืนยันหรือเช็กข้อมูล โดยต้องใช้กริยาช่วยและสรรพนามที่สอดคล้องกับประโยคหลัก
ตัวอย่าง:
-
You have met Ben's new girlfriend, haven’t you
-
He looks really handsome in his uniform, doesn’t he
-
It is very hot today, isn’t it
4. การสร้างประโยคปฏิเสธ
ให้เติมคำว่า not หลังคำกริยาช่วยเพื่อสร้างประโยคปฏิเสธ
ตัวอย่าง:
-
It does not have a price label on it.
-
He did not reply to her question right away.
หมายเหตุ: คำว่า never มีความหมายเชิงปฏิเสธอยู่แล้ว จึงไม่ต้องใช้กริยาช่วย (She never understands algebra.)
5. การเน้นย้ำแนวคิดสำคัญ
สามารถเพิ่มกริยาช่วย do เพื่อเน้นย้ำความหมายของประโยคได้
ตัวอย่าง:
-
A: Did your mom find the mess
-
B: She did find it.
-
A: You probably do not want to come.
-
B: I do want to come
6. การสร้างประโยคในรูป Passive Voice
ประโยคส่วนใหญ่ในภาษาอังกฤษใช้รูป Active voice แต่เมื่อผู้กระทำไม่สำคัญหรือไม่ทราบ ให้ใช้รูป Passive voice โดยใช้กริยาช่วย be
ตัวอย่าง:
-
[กริยาหลัก] The man leads his dog.
-
[กริยาช่วย] The dog is led by the man.
วิธีใช้กริยาช่วยประเภทโมดอล
กริยาช่วยประเภทโมดอลใช้เพื่อแสดงทัศนคติ ความเป็นไปได้ หน้าที่ หรือสถานการณ์สมมติ ต่อไปนี้คือวิธีการใช้งาน:
กริยาช่วย |
คำอธิบายการใช้ |
ตัวอย่าง |
should, must |
แสดงถึงการกระทำที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นหรือเป็นสิ่งจำเป็น |
The tree must be bent while it is young. |
could, may, might |
แสดงถึงความเป็นไปได้ |
It might rain later. |
can |
แสดงถึงความสามารถ |
Love can turn the cottage into a golden palace. |
can, may, could |
ใช้เพื่อขออนุญาตอย่างสุภาพ |
May I see your passport please? |
will, would, can, could |
ใช้เพื่อขอความช่วยเหลือหรือคำร้องอย่างสุภาพ |
Could you call a taxi for me? |
should |
ใช้เพื่อให้คำแนะนำหรือข้อเสนอแนะ |
You should always tell the truth. |
must, have to, need to |
ใช้เพื่อแสดงถึงความจำเป็นหรือหน้าที่ที่ต้องทำอย่างเคร่งครัด |
You need to change your eating habits. |
will, would, used to |
ใช้เพื่ออธิบายนิสัยหรือการกระทำที่เกิดขึ้นซ้ำๆ |
I will arrive early and leave late every time. |
แบบฝึกหัดกริยาช่วยพร้อมคำตอบ
แบบฝึกหัดที่ 1: เลือกกริยาช่วยที่ถูกต้อง
-
You (must / should not / should) be 18 before you can drive in Japan.
-
You (do not / must not / have to / should not) go to bed so late.
-
You (must / need not / must not) come. She can do it without you.
-
You (must / do not have to / must not) copy during exams.
-
Harry (does not have to / should not / must not) be very tall to play football.
แบบฝึกหัดที่ 2: เติมคำให้ถูกต้องโดยใช้ can, could หรือ might
-
It … rain later, so we should bring umbrellas.
-
… you please pass me the salt
-
I am not sure if I … make it to the party tonight.
-
When I was younger, I … climb trees.
-
… I use your phone to make a call
แบบฝึกหัดที่ 3: เติมรูปที่ถูกต้องของ do, does หรือ did
-
She … her homework every day.
-
… they play soccer on weekends
-
He … his breakfast this morning.
-
… you like to dance
-
We … a great time at the party last night.
คำตอบ
แบบฝึกหัดที่ 1
-
must
-
should not
-
need not
-
must not
-
does not have to
แบบฝึกหัดที่ 2
-
might
-
Could
-
could
-
could
-
Can
แบบฝึกหัดที่ 3
-
does
-
Do
-
did
-
Do
-
had
Monkey Junior - เส้นทางการเรียนรู้ภาษาอังกฤษที่ครอบคลุมสำหรับเด็ก
Monkey Junior เป็นแอปพลิเคชันสอนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กอายุ 0-11 ปี ที่ช่วยให้เด็กพัฒนาทักษะ ฟัง พูด อ่าน เขียน อย่างครบวงจร ผ่านเกมและกิจกรรมที่สนุกสนาน เด็กๆ จะได้เรียนรู้คำศัพท์กว่า 3,000 คำ พร้อมฝึกออกเสียงกับเจ้าของภาษาโดยตรงด้วยเทคโนโลยี AI อัจฉริยะ คอร์สของ Monkey Junior ออกแบบตามระดับความสามารถของเด็ก ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงระดับสูง ช่วยให้เด็กเข้าใจโครงสร้างภาษาอังกฤษ รวมถึงกริยาช่วย (Auxiliary Verbs) ได้อย่างเป็นธรรมชาติและมั่นใจในการใช้ภาษาในชีวิตจริง
สรุปได้ว่ากริยาช่วยเป็นส่วนสำคัญของประโยคภาษาอังกฤษที่ช่วยให้การสื่อสารมีความชัดเจนและเป็นธรรมชาติมากขึ้นไม่ว่าจะใช้สร้างประโยคคำถามประโยคปฏิเสธหรือแสดงกาลต่างๆการเข้าใจวิธีใช้กริยาช่วยอย่างถูกต้องจะช่วยพัฒนาทักษะการพูดและการเขียนภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจหากคุณกำลังเริ่มเรียนภาษาอังกฤษอย่าลืมฝึกเรื่องกริยาช่วยเพราะเป็นพื้นฐานสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม