คุณกำลังพิจารณาที่จะเรียน ทำงาน หรือย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษหรือไม่? ถ้าใช่ คุณคงเคยได้ยินการสอบ IELTS (ระบบทดสอบภาษาอังกฤษสากล) แล้ว แต่ว่า IELTS คืออะไร และทำไมมันถึงสำคัญสำหรับความตั้งใจระดับโลกของคุณ? คู่มือฉบับสมบูรณ์นี้จะอธิบายทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการทดสอบความสามารถทางภาษาอังกฤษที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางนี้ ตั้งแต่ประเภทต่าง ๆ โครงสร้างที่ซับซ้อน ไปจนถึงกลยุทธ์การเตรียมตัวที่มีประสิทธิภาพที่จะช่วยให้คุณได้คะแนนตามที่ต้องการ
IELTS คืออะไร?
IELTS ย่อมาจาก International English Language Testing System คือการทดสอบความสามารถทางภาษาอังกฤษที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ออกแบบมาเพื่อประเมินทักษะภาษา 4 ด้านที่จำเป็น ได้แก่ การฟัง การอ่าน การเขียน และการพูด ได้รับการยอมรับจากสถาบันกว่า 11,000 แห่งทั่วโลก IELTS ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายเพื่อการศึกษา การทำงาน และการย้ายถิ่นฐาน โดยเฉพาะในประเทศเช่น สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย แคนาดา และนิวซีแลนด์
ทำไมคุณควรสอบ IELTS?
คุณควรสอบ IELTS ด้วยเหตุผลสำคัญหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีความตั้งใจเกี่ยวกับการศึกษาระดับนานาชาติ การทำงานทั่วโลก หรือการย้ายถิ่นฐาน นี่คือสาเหตุที่ทำให้มันสำคัญมาก:
-
จำเป็นสำหรับการเรียนต่อต่างประเทศ: มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ เช่น สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และแคนาดา ต้องการคะแนน IELTS เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการรับสมัคร
-
เพิ่มโอกาสทางอาชีพทั่วโลก: มีนายจ้างและสถาบันกว่า 11,000 แห่งทั่วโลกที่ยอมรับ IELTS เป็นหลักฐานที่เชื่อถือได้ของความสามารถทางภาษาอังกฤษ
-
สนับสนุนการยื่นขอวีซ่าและย้ายถิ่นฐาน: IELTS มักจะเป็นข้อกำหนดในการขอวีซ่าและกระบวนการย้ายถิ่นฐานในประเทศอย่างสหราชอาณาจักร แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
-
ช่วยพัฒนาความพร้อมทางวิชาการ: การเตรียมตัวสอบ IELTS ช่วยเสริมสร้างทักษะภาษาอังกฤษทั้งสี่ด้านที่จำเป็น ได้แก่ การฟัง การอ่าน การเขียน และการพูด เพื่อให้คุณพร้อมสำหรับความสำเร็จทางวิชาการ
-
เพิ่มโอกาสการได้งานและเงินเดือนที่สูงขึ้น: คะแนน IELTS ที่ดีสามารถช่วยให้คุณมีข้อได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดแรงงานและเปิดประตูสู่ตำแหน่งงานที่ได้รับค่าตอบแทนสูงขึ้น
-
พัฒนาตนเอง: แม้ว่าคุณจะไม่ได้วางแผนเรียนหรือทำงานต่างประเทศ การสอบ IELTS ก็เป็นวิธีที่ดีในการประเมินและพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของคุณในรูปแบบที่เป็นระบบ
ประเภทของใบรับรอง IELTS
เมื่อพูดถึง "ประเภทของใบรับรอง IELTS" จะถูกต้องกว่าถ้าพูดถึงประเภทต่าง ๆ ของการสอบ IELTS ที่คุณสามารถสอบได้ เพราะใบรับรองที่คุณได้รับจะสะท้อนถึงรูปแบบการสอบเฉพาะนั้น แม้ว่าใบรับรองจะดูเหมือนกันโดยทั่วไป แต่ "ประเภท" ที่ระบุบนใบรับรองนั้นแสดงถึงโมดูลที่คุณทำและวัตถุประสงค์ของมัน
นี่คือการแบ่งประเภทของการสอบ IELTS หลัก ๆ และใบรับรองที่ได้จากการสอบเหล่านั้น:
IELTS Academic
IELTS Academic เหมาะสำหรับนักเรียนที่ต้องการเรียนในระดับปริญญาตรีหรือบัณฑิตศึกษาภายใต้สภาพแวดล้อมที่ใช้ภาษาอังกฤษ ในประเทศไทย มหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่ง เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รับคะแนน IELTS Academic สำหรับการสมัครเข้าเรียนทั้งในโปรแกรมไทยและโปรแกรมนานาชาติ
การสอบครอบคลุมทักษะภาษาอังกฤษทั้งสี่ด้าน ได้แก่ การฟัง การอ่าน การเขียน และการพูด เพื่อประเมินความพร้อมทางวิชาการ สำหรับนักเรียนไทยที่ต้องการเรียนต่อต่างประเทศหรือต้องการสมัครโปรแกรมสอนภาษาอังกฤษในประเทศ IELTS Academic เป็นใบรับรองที่เชื่อถือได้และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง
IELTS General Training
IELTS General Training ถูกออกแบบมาสำหรับผู้ที่วางแผนทำงาน ฝึกอบรม หรือย้ายถิ่นฐานไปประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ การสอบนี้ทดสอบทักษะทั้งสี่ด้านเช่นเดียวกัน แต่ส่วนการอ่านและการเขียนจะมีความซับซ้อนทางวิชาการน้อยกว่า IELTS Academic
เวอร์ชันนี้เหมาะสำหรับผู้สมัครไทยที่สมัครเข้าฝึกอบรมวิชาชีพ การศึกษาระดับมัธยม หรือเพื่อวัตถุประสงค์ในการย้ายถิ่นฐาน ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานราชการและนายจ้างหลายแห่งในประเทศเช่น สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และแคนาดา
IELTS Regular
IELTS Regular หมายถึงรูปแบบมาตรฐานของการสอบ IELTS ซึ่งมีทั้งแบบ Academic และ General Training ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในประเทศอย่างออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และหลายประเทศในยุโรป สำหรับการศึกษา การทำงาน หรือการย้ายถิ่นฐาน
สำหรับผู้สมัครไทย IELTS Regular เป็นรูปแบบที่ใช้สอบมากที่สุดสำหรับการสมัครในประเทศและต่างประเทศ ไม่ว่าคุณจะสมัครเข้ามหาวิทยาลัยหรือตั้งใจจะไปต่างประเทศ การสอบนี้ให้ใบรับรองภาษาอังกฤษที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก
IELTS UKVI
IELTS UKVI เป็นการสอบภาษาอังกฤษที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลสหราชอาณาจักรสำหรับการขอวีซ่าและการย้ายถิ่นฐาน มีทั้งรูปแบบ Academic และ General Training และเป็นข้อกำหนดเมื่อสมัครขอวีซ่าประเภทเฉพาะในสหราชอาณาจักร
สำหรับนักเรียนไทยที่วางแผนจะเรียนในสหราชอาณาจักร IELTS UKVI ยังได้รับการยอมรับสำหรับหลักสูตรภาษาอังกฤษก่อนเข้าเรียนและการสมัครเข้ามหาวิทยาลัย นอกจากการขอวีซ่าแล้วยังสามารถใช้เหมือนกับการสอบ IELTS แบบ Regular สำหรับการศึกษาและทำงานทั่วไป
โครงสร้างการสอบ IELTS
การสอบ IELTS (International English Language Testing System) มีโครงสร้างที่ได้มาตรฐาน ออกแบบมาเพื่อประเมินความสามารถทางภาษาอังกฤษของผู้เข้าสอบใน 4 ทักษะสำคัญ ได้แก่ การฟัง การอ่าน การเขียน และการพูด
แม้ว่าจะมีการสอบ IELTS หลัก 2 ประเภท คือ Academic และ General Training แต่ส่วนของการฟังและการพูดจะเหมือนกันทั้งสองแบบ ส่วนการอ่านและการเขียนจะแตกต่างกันตามประเภทการสอบ
นี่คือรายละเอียดโครงสร้างการสอบ IELTS:
ระยะเวลาการสอบรวม: ประมาณ 2 ชั่วโมง 45 นาที
การสอบฟัง อ่าน และเขียน จะทำในวันเดียวกันโดยไม่มีช่วงพักระหว่างการสอบ การสอบพูดอาจจัดในวันเดียวกัน หรือก่อนหน้าหลังจากวันสอบหลักได้สูงสุด 7 วัน
การฟัง (ประมาณ 30 นาที + 10 นาทีสำหรับการถ่ายโอนข้อมูลสำหรับการสอบแบบกระดาษ)
-
รูปแบบ: มี 4 ส่วน รวม 40 ข้อ คุณจะได้ยินการบันทึกแต่ละส่วนเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
-
การบันทึก:
-
ส่วนที่ 1: บทสนทนาระหว่างสองคนในบริบททางสังคมประจำวัน (เช่น การจองห้องพักในโรงแรม การสอบถามเกี่ยวกับการจัดการเดินทาง)
-
ส่วนที่ 2: บทพูดเดี่ยวในบริบททางสังคมประจำวัน (เช่น สุนทรพจน์เกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวกในท้องถิ่น การออกอากาศวิทยุ)
-
ส่วนที่ 3: บทสนทนาระหว่างผู้คนสูงสุดสี่คนในบริบททางวิชาการหรือการฝึกอบรม (เช่น นักเรียนหารือโครงการ อาจารย์และนักเรียนพูดคุยเกี่ยวกับงานที่ได้รับมอบหมาย)
-
ส่วนที่ 4: บทพูดเดี่ยวในหัวข้อวิชาการ (เช่น บรรยายในมหาวิทยาลัย)
-
ประเภทคำถาม:
-
แบบเลือกตอบ
-
การจับคู่
-
การติดป้ายแผนที่/แผนผัง/แผนภาพ
-
การเติมข้อมูลในแบบฟอร์ม/บันทึก/ตาราง/แผนผังลำดับเหตุการณ์/สรุป
การเติมประโยค -
คำถามตอบสั้น
-
ทักษะสำคัญที่ทดสอบ: ความสามารถในการเข้าใจแนวคิดหลัก ข้อมูลข้อเท็จจริงเฉพาะ ความคิดเห็น ทัศนคติ จุดประสงค์ของผู้พูด และการติดตามการพัฒนาเหตุผลในบทสนทนา
การอ่าน (60 นาที)
-
รูปแบบ: 3 ส่วน รวม 40 ข้อ
-
เนื้อหาจะแตกต่างตามประเภทการสอบ:
-
IELTS Academic Reading:
-
ข้อความ: ข้อความยาว 3 ชุดที่นำมาจากหนังสือ วารสาร นิตยสาร และหนังสือพิมพ์ ซึ่งมักเป็นข้อความที่มีลักษณะบรรยาย ข้อเท็จจริง เชิงอภิปราย หรือวิเคราะห์ เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญแต่ต้องการเข้าเรียนในหลักสูตรมหาวิทยาลัยหรือสมัครรับรองวิชาชีพ
-
ประเภทคำถาม: แบบเลือกตอบ, การระบุข้อมูล (จริง/เท็จ/ไม่มีในข้อความ), การระบุความคิดเห็นของผู้เขียน (ใช่/ไม่ใช่/ไม่มีในข้อความ), การจับคู่ข้อมูล, การจับคู่หัวข้อ, การจับคู่ลักษณะ, การจับคู่ส่วนท้ายประโยค, การเติมประโยค, การเติมสรุป, การเติมบันทึก, การเติมตาราง, การเติมแผนผัง, การติดป้ายแผนภาพ, คำถามตอบสั้น
-
IELTS General Training Reading:
-
ข้อความ: 3 ส่วนโดยข้อความมาจากประกาศ โฆษณา คู่มือบริษัท หนังสือพิมพ์ คู่มือใช้งาน และหนังสือ ซึ่งเป็นเนื้อหาที่พบเจอในชีวิตประจำวันในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ
-
ส่วนที่ 1 มักมีข้อความสั้นหลายข้อความที่เป็นข้อเท็จจริง
-
ส่วนที่ 2 มี 2 ข้อความสั้นที่เกี่ยวข้องกับงาน
-
ส่วนที่ 3 มีข้อความยาวและซับซ้อนกว่าในหัวข้อทั่วไป
-
ประเภทคำถาม: คล้ายกับ Academic Reading แต่ปรับให้เหมาะกับประเภทข้อความต่างกัน
-
ทักษะสำคัญที่ทดสอบ: อ่านจับใจความหลัก แนวคิดหลัก และรายละเอียด เข้าใจนัยและความหมายแฝง รู้จักความคิดเห็น ทัศนคติ และวัตถุประสงค์ของผู้เขียน และติดตามการพัฒนาเหตุผล
การเขียน (60 นาที)
-
รูปแบบ: 2 งาน ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีสำหรับงานที่ 1 และ 40 นาทีสำหรับงานที่ 2
-
เนื้อหาจะแตกต่างตามประเภทการสอบ:
-
IELTS Academic Writing:
-
งานที่ 1 (ขั้นต่ำ 150 คำ): คุณจะได้รับกราฟ ตาราง แผนภูมิ หรือแผนภาพให้บรรยาย สรุป หรืออธิบายข้อมูลด้วยคำของคุณเอง เช่น อธิบายและชี้แจงข้อมูล อธิบายขั้นตอนของกระบวนการ วิธีการทำงาน หรืออธิบายวัตถุหรือเหตุการณ์
-
งานที่ 2 (ขั้นต่ำ 250 คำ): คุณจะต้องเขียนเรียงความตอบสนองต่อมุมมอง ข้อโต้แย้ง หรือปัญหา โดยใช้สไตล์ทางการ
-
IELTS General Training Writing:
-
งานที่ 1 (ขั้นต่ำ 150 คำ): คุณจะได้รับสถานการณ์ให้เขียนจดหมายขอข้อมูลหรืออธิบายสถานการณ์ จดหมายอาจเป็นส่วนตัว กึ่งทางการ หรือทางการ ขึ้นกับบริบท
-
งานที่ 2 (ขั้นต่ำ 250 คำ): คุณจะต้องเขียนเรียงความตอบสนองต่อมุมมอง ข้อโต้แย้ง หรือปัญหา โดยใช้สไตล์ที่เป็นส่วนตัวหรือกึ่งทางการ แต่ต้องชัดเจนและมีโครงสร้างดี
-
ทักษะสำคัญที่ทดสอบ: ความสามารถในการนำเสนอวิธีแก้ปัญหา แสดงความคิดเห็นและสนับสนุนความคิดเห็น เปรียบเทียบหลักฐาน ความคิดเห็น และผลกระทบ ประเมินและท้าทายแนวคิด หลักฐาน หรือข้อโต้แย้ง จัดระเบียบ นำเสนอ และเปรียบเทียบข้อมูล อธิบายกระบวนการหรือวัตถุ และเขียนข้อความที่สอดคล้องและถูกต้องตามไวยากรณ์
การพูด (11-14 นาที)
-
รูปแบบ: สัมภาษณ์ตัวต่อตัวกับผู้สอบที่ได้รับการรับรอง การสอบจะถูกบันทึกเสียง
-
ส่วนต่างๆ: 3 ส่วน
-
ส่วนที่ 1: การแนะนำและสัมภาษณ์ (4-5 นาที) ผู้สอบจะแนะนำตัวและขอให้คุณแนะนำตัวเองและยืนยันตัวตน จากนั้นถามคำถามทั่วไปเกี่ยวกับหัวข้อที่คุ้นเคย เช่น บ้าน ครอบครัว งาน/การศึกษา งานอดิเรก และความสนใจ เพื่อช่วยให้คุณผ่อนคลายและพูดได้อย่างเป็นธรรมชาติ
-
ส่วนที่ 2: การพูดยาว (3-4 นาที รวม 1 นาทีเตรียมตัว) ผู้สอบจะให้บัตรหัวข้อให้คุณพูด คุณมีเวลา 1 นาทีเตรียมตัวและจดบันทึก จากนั้นพูด 1-2 นาทีเกี่ยวกับหัวข้อนั้น ผู้สอบอาจถามคำถามเพิ่มเติม 1-2 ข้อในตอนท้าย
-
ส่วนที่ 3: การสนทนา (4-5 นาที) ผู้สอบจะถามคำถามเชิงลึกและนามธรรมเกี่ยวกับหัวข้อในส่วนที่ 2 เพื่อเปิดโอกาสให้พูดคุยลึกซึ้งเกี่ยวกับประเด็นและความคิด
-
ทักษะสำคัญที่ทดสอบ: ความคล่องแคล่วและความสอดคล้อง ทรัพยากรคำศัพท์ ความหลากหลายและความถูกต้องทางไวยากรณ์ และการออกเสียง ผู้สอบจะประเมินความสามารถในการสื่อสารความคิดเห็นและข้อมูล พูดได้ยาว จัดระเบียบความคิดอย่างเป็นระบบ แสดงและสนับสนุนความคิดเห็น วิเคราะห์ สนทนา และคาดเดาเกี่ยวกับประเด็น
ระบบคะแนนแบนด์ IELTS
ระบบคะแนนแบนด์ IELTS ใช้มาตราส่วน 9 แบนด์เพื่อรายงานผลสอบอย่างสม่ำเสมอและแม่นยำ ไม่มีการ "ผ่าน" หรือ "ตก" ใน IELTS แต่จะได้รับคะแนนตั้งแต่แบนด์ 1 (ผู้ใช้ภาษาไม่ได้เลย) ถึงแบนด์ 9 (ผู้ใช้ภาษาเชี่ยวชาญ)
นี่คือคำอธิบายรายละเอียดของระบบคะแนนแบนด์ IELTS: คุณจะได้รับคะแนนแยกสำหรับทักษะทั้งสี่ที่ทดสอบ คือ การฟัง การอ่าน การเขียน และการพูด คะแนนแต่ละทักษะอาจเป็นเลขเต็ม (เช่น 6.0, 7.0) หรือเลขครึ่ง (เช่น 6.5, 7.5) คะแนนรวมเฉลี่ย (Overall Band Score) จะคำนวณโดยการนำคะแนนของทักษะแต่ละอย่างมาหาค่าเฉลี่ย แล้วปัดเศษเป็นเลขเต็มหรือเลขครึ่งที่ใกล้ที่สุด กฎการปัดคะแนนเฉลี่ยรวม:
ตัวอย่างการคำนวณ:
รวม: 7.0 + 6.5 + 6.0 + 7.0 = 26.5 ค่าเฉลี่ย: 26.5 / 4 = 6.625 คะแนนรวม (ปัดเศษ): 6.5 |
คะแนนแต่ละแบนด์สื่อความหมายระดับความสามารถภาษาอังกฤษอย่างชัดเจน:
คะแนน |
ประเภทผู้ใช้ |
คำอธิบายความสามารถอย่างละเอียด |
9 |
ผู้ใช้ระดับเชี่ยวชาญ |
มีความชำนาญในการใช้ภาษาอย่างสมบูรณ์: เหมาะสม ถูกต้อง คล่องแคล่ว พร้อมความเข้าใจเต็มที่ |
8 |
ผู้ใช้ดีมาก |
มีความชำนาญในการใช้ภาษาอย่างเต็มที่ โดยมีความผิดพลาดหรือความไม่เหมาะสมเพียงเล็กน้อยที่ไม่เป็นระบบ ความเข้าใจผิดอาจเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย สามารถจัดการกับการโต้แย้งที่ซับซ้อนได้ดี |
7 |
ผู้ใช้ดี |
มีความสามารถในการใช้ภาษาได้อย่างใช้งานจริง แม้จะมีข้อผิดพลาด ความไม่เหมาะสม หรือความเข้าใจผิดในบางสถานการณ์ แต่โดยทั่วไปสามารถจัดการกับภาษาที่ซับซ้อนได้ดีและเข้าใจเหตุผลอย่างละเอียด |
6 |
ผู้ใช้ที่มีความสามารถ |
มีความสามารถใช้ภาษาได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยทั่วไป แม้จะมีข้อผิดพลาด ความไม่เหมาะสม และความเข้าใจผิดบ้าง สามารถใช้และเข้าใจภาษาที่ค่อนข้างซับซ้อนได้ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่คุ้นเคย |
5 |
ผู้ใช้ระดับปานกลาง |
มีความสามารถในการใช้ภาษาบางส่วน สามารถเข้าใจความหมายโดยรวมในเกือบทุกสถานการณ์ แต่มีแนวโน้มทำผิดพลาดมาก ควรสามารถสื่อสารพื้นฐานในสาขาของตนได้ |
4 |
ผู้ใช้ระดับจำกัด |
มีความสามารถพื้นฐานจำกัดเฉพาะในสถานการณ์ที่คุ้นเคยเท่านั้น มีปัญหาบ่อยครั้งในการเข้าใจและสื่อสาร ไม่สามารถใช้ภาษาซับซ้อนได้ |
3 |
ผู้ใช้ที่จำกัดมาก |
สามารถสื่อสารและเข้าใจความหมายทั่วไปในสถานการณ์ที่คุ้นเคยมากเท่านั้น มักเกิดปัญหาการสื่อสารบ่อยครั้ง |
2 |
ผู้ใช้ที่ไม่สม่ำเสมอ |
ไม่สามารถสื่อสารได้จริงนอกจากข้อมูลพื้นฐานที่สุดโดยใช้คำแยกหรือวลีสั้นในสถานการณ์ที่คุ้นเคยและเพื่อตอบสนองความต้องการทันที มีความยากลำบากมากในการเข้าใจภาษาอังกฤษที่พูดและเขียน |
1 |
ผู้ใช้ไม่ได้ใช้ภาษา |
แทบไม่มีความสามารถในการใช้ภาษาเลย อาจรู้คำศัพท์แยกไม่กี่คำเท่านั้น |
0 |
ไม่ได้ทำการสอบ |
ไม่ได้ตอบคำถาม |
ค่าธรรมเนียมสอบ IELTS และคู่มือการลงทะเบียน
ค่าธรรมเนียมสอบ IELTS ในประเทศไทยขึ้นอยู่กับรูปแบบการสอบและผู้ให้บริการ สำหรับ IELTS Academic หรือ General Training ค่าธรรมเนียมโดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 7,100 บาทที่ British Council และ 7,500 บาทที่ IDP ส่วน IELTS UKVI ค่าธรรมเนียมจะอยู่ที่ประมาณ 7,710 บาท ในขณะที่ IELTS Life Skills จะมีค่าธรรมเนียมประมาณ 5,800 บาท ค่าธรรมเนียมเหล่านี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงทุกปี ดังนั้นควรตรวจสอบอัตราค่าธรรมเนียมล่าสุดจากเว็บไซต์ทางการก่อนลงทะเบียน
ในประเทศไทยมีผู้ให้บริการสอบ IELTS อย่างเป็นทางการสองราย ได้แก่ IDP Thailand (จากออสเตรเลีย) และ British Council Thailand (จากสหราชอาณาจักร) ทั้งสองแห่งมีการจัดสอบ IELTS แบบคอมพิวเตอร์และแบบกระดาษในจังหวัดใหญ่ ๆ เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น หาดใหญ่ โคราช พิษณุโลก และภูเก็ต สามารถลงทะเบียนสอบได้โดยตรงผ่านเว็บไซต์ของพวกเขาหรือผ่านศูนย์ภาษาที่ได้รับอนุญาต เช่น Englishparks ซึ่งเป็นศูนย์สอบ IDP อย่างเป็นทางการด้วย
ตัวเลือกรูปแบบการสอบ:
-
IELTS แบบกระดาษ: ผลสอบจะออกหลังจาก 13 วัน เหมาะสำหรับผู้เข้าสอบที่ชอบเขียนด้วยมือหรือต้องการจดบันทึกระหว่างสอบ
-
IELTS แบบคอมพิวเตอร์: ผลสอบออกเร็วกว่า ภายใน 5-7 วัน เหมาะสำหรับผู้ที่พิมพ์ได้เร็วและต้องการผลสอบที่รวดเร็ว
ถ้าคุณต้องการผลสอบอย่างเร่งด่วน ควรเลือกสอบแบบคอมพิวเตอร์ที่กรุงเทพฯ ซึ่งมีรอบสอบบ่อยและผลสอบออกเร็วกว่า
วิธีเตรียมตัวสอบ IELTS อย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อประสบความสำเร็จในการสอบ IELTS การเตรียมตัวที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก คุณควรเข้าใจรูปแบบการสอบ รวมถึงสี่ส่วนหลัก ได้แก่ การฟัง การอ่าน การเขียน และการพูด การทำความคุ้นเคยกับโครงสร้างและเวลาที่ใช้ในแต่ละส่วนจะช่วยลดความเครียดในวันสอบและเพิ่มประสิทธิภาพการทำข้อสอบ
ใช้สื่อเตรียมสอบ IELTS ที่เชื่อถือได้ เช่น หนังสือเรียน ข้อสอบฝึกหัด และแหล่งข้อมูลออนไลน์ กำหนดตารางการเรียนอย่างสม่ำเสมอเพื่อฝึกทักษะทั้งสี่วันละหลายครั้ง การเข้าร่วมคอร์สเรียน IELTS หรือกลุ่มเรียนรู้สามารถช่วยเพิ่มแรงจูงใจและแนวทางในการศึกษา
การฝึกทำข้อสอบจำลองเป็นสิ่งจำเป็น เพราะจะช่วยให้คุณคุ้นเคยกับประเภทคำถาม ปรับปรุงการบริหารเวลา และระบุจุดอ่อนของตัวเอง ยิ่งคุณจำลองสภาพการสอบจริงมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมั่นใจมากขึ้นเท่านั้น
เริ่มต้นการเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่เนิ่น ๆ ด้วยเครื่องมือพื้นฐานอย่าง Monkey Junior ซึ่งเป็นวิธีที่สนุกและโต้ตอบได้ในการสร้างคลังคำศัพท์ การออกเสียง และทักษะไวยากรณ์ - สิ่งเหล่านี้สำคัญมากสำหรับความสำเร็จในการสอบ IELTS โดยเฉพาะถ้าคุณเริ่มต้นที่ระดับผู้เริ่มต้น
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ IELTS
1. การสอบ IELTS ใช้ทำอะไร?
การสอบ IELTS เป็นการทดสอบความสามารถทางภาษาอังกฤษที่ใช้เพื่อการศึกษา การทำงาน และการย้ายถิ่นฐาน โดยได้รับการยอมรับจากองค์กรมากกว่า 12,500 แห่ง รวมถึงสถาบันการศึกษา นายจ้าง สมาคมวิชาชีพ และรัฐบาลใน 150 ประเทศ
2. การสอบ IELTS ทดสอบกี่ทักษะ?
มีสี่ทักษะที่ทดสอบ ได้แก่ การฟัง การอ่าน การเขียน และการพูด
3. สอบทุกทักษะในวันเดียวกันไหม?
การฟัง การอ่าน และการเขียน จะสอบในวันเดียวกันโดยไม่มีเวลาพัก ส่วนการพูดสามารถสอบก่อน หลัง หรือในวันเดียวกับทักษะอื่น ขึ้นอยู่กับศูนย์สอบ
4. ลงทะเบียนสอบ IELTS อย่างไร?
การลงทะเบียนมักทำผ่านเว็บไซต์ทางการของผู้ให้บริการสอบ เช่น British Council หรือ IDP Education โดยต้องใช้เอกสารแสดงตัวตนที่ยังไม่หมดอายุ (โดยปกติคือหนังสือเดินทาง)
การเข้าใจว่า IELTS คืออะไรและทำความคุ้นเคยกับรูปแบบการสอบ การให้คะแนน และข้อกำหนดเป็นขั้นตอนสำคัญแรกสู่ความสำเร็จ ไม่ว่าคุณจะมีเป้าหมายเพื่อศึกษาต่อหรือโอกาสทางอาชีพในต่างประเทศ การเตรียมตัวอย่างรอบคอบและมีแผนยุทธศาสตร์คือกุญแจสำคัญ ด้วยการใช้ความรู้และเคล็ดลับที่แบ่งปันในคู่มือนี้ คุณจะพร้อมเผชิญหน้ากับการสอบ IELTS ด้วยความมั่นใจและเปิดประตูสู่ศักยภาพในเวทีโลก