คำนามเป็นหนึ่งในส่วนไวยากรณ์ที่สำคัญที่สุดในภาษาอังกฤษ หลายคนพยายามเรียนรู้ความรู้ขั้นสูงและมองข้ามส่วนของคำนาม ซึ่งเป็นพื้นฐานความรู้สำคัญที่จะช่วยให้คุณพิชิตภาษาอังกฤษได้ง่ายขึ้น หากคุณกำลังมองหาความรู้เกี่ยวกับคำนามในภาษาอังกฤษแบบครบถ้วนตั้งแต่ต้นจนจบ อย่าพลาดบทความวันนี้จาก Monkey ที่รวบรวมทุกอย่างเกี่ยวกับคำนามในภาษาอังกฤษไว้ให้คุณแล้ว!
คำนามในภาษาอังกฤษคืออะไร?
คำนาม (Noun, ย่อว่า “N”) คือคำที่ทำหน้าที่เป็นประธานหรือกรรมในประโยค ใช้เพื่อบอกถึงคน สิ่งของ หรือปรากฏการณ์ที่เฉพาะเจาะจงหนึ่งหรือหลายอย่าง
ตามหลังคำนามจะมีคำกริยาทั่วไปหรือคำกริยา to be เป็นสองประเภทหลัก
ตัวอย่าง: The phone is new (โทรศัพท์เครื่องนี้ใหม่)
ประเภทของคำนามที่นิยมใช้ในภาษาอังกฤษ
คำนามในภาษาอังกฤษมีความหลากหลายและแบ่งออกเป็นหลายกลุ่มตามลักษณะหน้าที่และความหมาย ด้านล่างนี้คือสองวิธีการแบ่งประเภทที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย: ตามความหมายการใช้งานในชีวิตจริง และตามลักษณะทางไวยากรณ์
การแบ่งประเภทตามความหมายการใช้งาน
ประเภทคำนาม |
คำอธิบาย |
ตัวอย่าง |
คำนามที่ใช้เรียกคน |
ใช้เรียกคน อาชีพ ความสัมพันธ์ต่างๆ |
Mother (แม่), Brother (พี่ชาย), Worker (คนงาน) |
คำนามที่ใช้เรียกสิ่งของ/สัตว์ |
ใช้เรียกสิ่งของหรือสิ่งมีชีวิต |
Ball (ลูกบอล), Paper (กระดาษ), Dog (สุนัข) |
คำนามที่ใช้เรียกสถานที่ |
ใช้เรียกสถานที่หรือตำแหน่งที่ชัดเจน |
Hall (หอประชุม), Hospital (โรงพยาบาล), Company (บริษัท) |
คำนามที่ใช้เรียกปรากฏการณ์ |
ใช้เรียกเหตุการณ์หรือปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ/สังคม |
Rain (ฝน), Storm (พายุ), War (สงคราม) |
การแบ่งประเภทนี้ช่วยให้ผู้เรียนเห็นภาพได้ง่ายขึ้นเมื่อต้องเริ่มทำความรู้จักกับคำนาม โดยอิงจากสิ่งที่คำนามแทนในชีวิตประจำวัน
การแบ่งประเภทตามลักษณะทางไวยากรณ์
การแบ่งประเภทนี้มักพบในตำราและข้อสอบภาษาอังกฤษ ช่วยให้เข้าใจลักษณะของคำนามแต่ละประเภทอย่างลึกซึ้งขึ้น
ประเภทคำนาม |
คำอธิบาย |
ตัวอย่าง |
Proper nouns (คำนามเฉพาะ) |
ใช้เรียกชื่อเฉพาะของคน สถานที่ องค์กร หรือสิ่งของที่เฉพาะเจาะจง |
Paris, Gordon Ramsay, Eiffel Tower |
Common nouns (คำนามสามัญ) |
ใช้เรียกชื่อทั่วไปของคน สิ่งของ หรือเหตุการณ์ที่ไม่เฉพาะเจาะจง |
Computer, food, vehicle |
Abstract nouns (คำนามนามธรรม) |
แสดงถึงแนวคิด ความรู้สึก หรือสภาวะที่ไม่สามารถมองเห็นหรือสัมผัสได้ |
Knowledge (ความรู้), Love (ความรัก), Sympathy (ความเห็นอกเห็นใจ) |
Collective nouns (คำนามนามรวม) |
ใช้เรียกกลุ่มหรือชุดของคนหรือสิ่งของที่ถือเป็นหน่วยเดียว |
Class (ชั้นเรียน), Group (กลุ่ม), Team (ทีม) |
Compound nouns (คำนามประกอบ) |
เป็นคำนามที่สร้างจากคำสองคำขึ้นไปรวมกัน |
Motorcycle (มอเตอร์ไซค์), Bedroom (ห้องนอน) |
บทบาทของคำนามในประโยคภาษาอังกฤษ
คำนามในภาษาอังกฤษมีหน้าที่หลายอย่าง และมีส่วนสำคัญในการสร้างโครงสร้างประโยคที่สมบูรณ์ ด้านล่างนี้คือหน้าที่หลักและตำแหน่งสำคัญของคำนามที่คุณควรรู้
คำนามในภาษาอังกฤษทำหน้าที่เป็นประธาน (Subject)
คำนามหรือตัววลีคำนามจะอยู่หน้ากริยาหลัก เพื่อระบุบุคคลหรือสิ่งที่กระทำการ
ตัวอย่าง: The teacher explains the lesson clearly. (ครูอธิบายบทเรียนอย่างชัดเจน)
ในประโยคนี้ “The teacher” คือคำนามที่ทำหน้าที่เป็นประธาน ซึ่งเป็นผู้กระทำกริยา “explains”
คำนามในภาษาอังกฤษทำหน้าที่เป็นกรรมตรง (Direct Object)
คำนามที่ทำหน้าที่เป็นกรรมตรง คือส่วนที่ได้รับผลกระทบจากกริยาหลัก
ตัวอย่าง: I lost my keys. (ฉันทำกุญแจหาย)
ที่นี่ “my keys” คือกรรมตรงของกริยา “lost”
คำนามในภาษาอังกฤษทำหน้าที่เป็นกรรมรอง (Indirect Object)
คำนามที่ทำหน้าที่เป็นกรรมรอง คือบุคคลหรือสิ่งที่ได้รับประโยชน์จากการกระทำ
ตัวอย่าง: She gave her brother a gift. (เธอให้ของขวัญแก่พี่ชายของเธอ)
ในประโยคนี้ “her brother” คือผู้รับของขวัญ ทำหน้าที่เป็นกรรมรอง
คำนามในภาษาอังกฤษทำหน้าที่เป็นกรรมของบุพบท (Object of Preposition)
คำนามที่อยู่หลังบุพบทจะสร้างวลีบุพบทเพื่อขยายความหมายของประโยค
ตัวอย่าง: We waited for the bus. (พวกเรารอรถบัส)
“the bus” คือกรรมของบุพบท “for”
คำนามในภาษาอังกฤษทำหน้าที่เป็นส่วนเติมเต็มประธาน (Subject Complement)
คำนามที่ทำหน้าที่เป็นส่วนเติมเต็มประธานจะตามหลังกริยาสัมพันธ์เพื่ออธิบายหรือระบุประธานให้ชัดเจนขึ้น
ตัวอย่าง: My uncle is a doctor. (ลุงของฉันเป็นหมอ)
ที่นี่ “a doctor” เป็นคำนามที่เติมเต็มและอธิบายประธาน “my uncle”
คำนามในภาษาอังกฤษทำหน้าที่เป็นส่วนเติมเต็มกรรม (Object Complement)
คำนามที่ทำหน้าที่เป็นส่วนเติมเต็มกรรมจะช่วยระบุหรือบรรยายกรรมให้ชัดเจนขึ้น
ตัวอย่าง: They elected Sarah president. (พวกเขาเลือกซาราห์เป็นประธาน)
“president” เป็นคำนามที่เติมเต็มกรรม “Sarah” ระบุว่าซาราห์ได้รับเลือกเป็นตำแหน่งใด
คำนามในภาษาอังกฤษทำหน้าที่เป็นคำอธิบายเพิ่มเติม (Appositive)
คำนามที่ทำหน้าที่เป็นคำอธิบายเพิ่มเติมจะอยู่ข้างคำนามอีกคำหนึ่งเพื่ออธิบายหรือให้ข้อมูลเพิ่ม
ตัวอย่าง: My friend, Jenny is a designer. (เพื่อนของฉัน เจนนี่ เป็นนักออกแบบ)
“Jenny” คือคำอธิบายเพิ่มเติมที่ช่วยชี้แจงคำนาม “my friend”
คำนามในภาษาอังกฤษทำหน้าที่เป็นคำขยายนามอื่น (Attributive Noun)
คำนามสามารถขยายนามอื่นในโครงสร้าง “noun + noun” คล้ายกับคำคุณศัพท์
ตัวอย่าง: We booked a hotel room. (เราจองห้องพักโรงแรม)
“hotel” ขยายนาม “room” กลายเป็นวลีคำนาม “hotel room”
ตำแหน่งของคำนามในประโยค
คำนามในภาษาอังกฤษสามารถปรากฏในตำแหน่งต่าง ๆ ภายในประโยค แต่ละตำแหน่งมีหน้าที่เฉพาะเจาะจง ด้านล่างนี้เป็น 6 ตำแหน่งที่พบบ่อย พร้อมตัวอย่างสองภาษาให้เข้าใจง่าย:
อยู่หลังคำสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของ (Possessive Adjectives)
คำนามมักตามหลังคำสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของ เช่น My, your, her และอาจมีคำคุณศัพท์เสริมความหมาย
ตัวอย่าง: Last year, her birthday party was so much fun. (งานเลี้ยงวันเกิดของเธอเมื่อปีที่แล้วสนุกมา)
อยู่หลังคำบอกปริมาณ (Quantifiers)
คำนามมักตามหลังคำบอกปริมาณ เช่น Many, much, a few, some, any
ตัวอย่าง: They planted many trees. (พวกเขาปลูกต้นไม้จำนวนมาก)
อยู่หลังบุพบท (Prepositions)
คำนามสามารถอยู่หลังบุพบท เช่น in, on, at ซึ่งในกรณีนี้คำนามจะทำหน้าที่เป็นกรรมของบุพบท เพื่อให้ข้อมูลเสริมบริบท
ตัวอย่าง: The cat is climbing on the tree. (แมวกำลังปีนต้นไม้)
อยู่หลังคำชี้เฉพาะ (Demonstratives)
คำนามอยู่หลังคำชี้เฉพาะ เช่น these, this, those, that และอาจมีคำคุณศัพท์เสริมความหมาย
ตัวอย่าง: This bed is so large. (เตียงนี้ใหญ่เกินไป)
อยู่หลังบทนำหน่วยนาม (Articles)
คำนามมักอยู่หลังบทนำหน่วยนาม เช่น a, an, the และอาจมีคำคุณศัพท์เสริมความหมาย
ตัวอย่าง: He bought a red car. (เขาซื้อรถสีแดงคันหนึ่ง)
อยู่ต้นประโยคทำหน้าที่ประธาน (Subject)
คำนามหรือตัววลีคำนามสามารถอยู่ต้นประโยคเพื่อทำหน้าที่เป็นประธานถือเป็นตำแหน่งสำคัญที่สุดของคำนามในประโยค
ตัวอย่าง: Books can open up new worlds for children. (หนังสือสามารถเปิดโลกใหม่ให้กับเด็ก ๆ)
การจำแนกประเภทและวิธีการระบุคำนามในภาษาอังกฤษ
การเข้าใจวิธีการจำแนกประเภทและการระบุคำนามในภาษาอังกฤษเป็นพื้นฐานสำคัญในการเขียนและพูดให้ถูกต้อง
ไม่ว่าคุณจะเริ่มต้นเรียนหรือกำลังเตรียมสอบ IELTS, TOEIC, TOEFL การเข้าใจคำนามและสัญญาณที่บ่งบอกคำนามจะช่วยพัฒนาทักษะทางภาษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้านล่างนี้คือประเภทคำนามที่พบได้บ่อยในภาษาอังกฤษ ซึ่งคุณควรจำให้แม่นเพื่อนำไปใช้ในการสื่อสารและการเขียนเชิงวิชาการ:
คำนามนับได้และคำนามนับไม่ได้
คำนามในภาษาอังกฤษแบ่งออกเป็นสองกลุ่มหลัก คือคำนามนับได้ (countable nouns) และคำนามนับไม่ได้ (uncountable nouns) ดังนี้:
ประเภท |
วิธีการระบุ |
ตัวอย่าง |
คำนามนับได้ |
คำนามที่สามารถนับจำนวนได้ |
One finger (นิ้วหนึ่ง), Two apples (แอปเปิลสองลูก) |
คำนามนับไม่ได้ |
คำนามที่ไม่สามารถนับจำนวนได้ |
Money (เงิน), Rain (ฝน), Milk (นม) |
คำนามเอกพจน์และคำนามพหูพจน์
หนึ่งในขั้นตอนสำคัญเมื่อเรียนรู้คำนามในภาษาอังกฤษคือการแยกแยะระหว่างคำนามเอกพจน์ (singular nouns) และคำนามพหูพจน์ (plural nouns) การแปลงระหว่างทั้งสองรูปแบบนี้ไม่เพียงช่วยให้ประโยคถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ แต่ยังส่งผลต่อการแบ่งกริยา การใช้บทนำหน่วยนามและคำปริมาณที่ตามมา
ประเภท |
วิธีการระบุ |
ตัวอย่าง |
คำนามเอกพจน์ |
คำนามที่ไม่มี “s” |
A pen (ปากกาอันหนึ่ง), A book (หนังสือเล่มหนึ่ง) |
คำนามพหูพจน์ |
คำนามที่มี “s” หรือ “es” |
Cats (แมวหลายตัว), Fishes (ปลาหลายชนิด) |
แม้ว่ากฎทั่วไปจะเป็นการเพิ่ม “s” หรือ “es” ที่ท้ายคำ แต่ภาษาอังกฤษยังมีกรณีพิเศษที่ต้องจดจำ นี่คือ 6 กฎที่พบบ่อยที่สุดในการเปลี่ยนคำนามจากเอกพจน์ไปพหูพจน์:
เพิ่ม “s” - กฎทั่วไปที่สุด
คำนามส่วนใหญ่ในภาษาอังกฤษจะเปลี่ยนเป็นพหูพจน์โดยการเพิ่ม “s” ที่ท้ายคำ
ตัวอย่าง:
-
book → books (หนังสือเล่ม),
-
pen → pens (ปากกา),
-
table → tables (โต๊ะ)
ข้อยกเว้น:
คำนามที่ลงท้ายด้วย “th” หรือ “ph” จะเพิ่ม “s” เหมือนปกติ:
bath → baths, trophy → trophies
คำนามที่ลงท้ายด้วย “o” จะเพิ่ม “s”:
radio → radios, video → videos
แต่บางคำที่ลงท้ายด้วย “o” จะเพิ่ม “es”:
echo → echoes, torpedo → torpedoes, hero → heroes
คำนามที่ลงท้ายด้วย “f” หรือ “fe” จะเพิ่ม “s”:
roof → roofs, safe → safes
แต่บางคำจะเปลี่ยน “f/fe” เป็น “ves”:
calf → calves, wife → wives
เพิ่ม “es” - เมื่อคำนามลงท้ายด้วย s, x, z, sh, ch
เมื่อคำนามลงท้ายด้วยเสียงกระซิบ จะต้องเพิ่ม “es” เพื่อให้อ่านออกเสียงได้ง่ายขึ้น
ตัวอย่าง:
-
glass → glasses (แก้ว),
-
fox → foxes (สุนัขจิ้งจอก),
-
quiz → quizzes (แบบทดสอบ),
-
brush → brushes (แปรง),
-
beach → beaches (ชายหาด)
ข้อยกเว้น:
-
คำนามที่ลงท้ายด้วย “is” จะเปลี่ยนเป็น “es”:
-
thesis → theses, analysis → analyses
เปลี่ยน “y” เป็น “ies”
หากคำนามลงท้ายด้วย “y” หลังพยัญชนะ ให้เปลี่ยน “y” เป็น “ies” เมื่อเปลี่ยนเป็นพหูพจน์
ตัวอย่าง:
-
puppy → puppies (ลูกสุนัข),
-
story → stories (เรื่องราว),
-
country → countries (ประเทศ)
ข้อยกเว้น:
-
ถ้าก่อน “y” เป็นสระ ให้เพิ่ม “s” เช่นเดิม:
-
day → days, journey → journeys
เปลี่ยน “us” เป็น “i”
บางคำนามที่มาจากภาษาละตินที่ลงท้ายด้วย “us” จะเปลี่ยนเป็น “i” เมื่อเป็นพหูพจน์
ตัวอย่าง:
-
alumnus → alumni (ศิษย์เก่าชาย),
-
radius → radii (รัศมี),
-
nucleus → nuclei (นิวเคลียส)
ไม่เปลี่ยนรูป - Singular = Plural
บางคำนามยังคงรูปเดิมทั้งในเอกพจน์และพหูพจน์
ตัวอย่าง:
-
aircraft → aircraft (เครื่องบิน),
-
moose → moose (กวางมูส),
-
salmon → salmon (ปลาแซลมอน),
-
series → series (ชุด, ลำดับ)
บางคำนามจะใช้ในรูปพหูพจน์เสมอ แม้ว่าจะหมายถึงสิ่งเดียว:
-
trousers (กางเกง), binoculars (กล้องส่องทางไกล), goggles (แว่นตากันฝุ่น), pliers (คีม)
-
บางคำนามไม่มีรูปพหูพจน์เนื่องจากมีความหมายเชิงนามธรรม หรือไม่สามารถนับได้:
-
happiness (ความสุข), furniture (เฟอร์นิเจอร์), information (ข้อมูล), traffic (การจราจร)
คำนามที่ไม่เป็นไปตามกฎ – ควรจำ
บางคำนามมีรูปพหูพจน์ที่แตกต่างออกไปและไม่เป็นไปตามกฎ
ตัวอย่าง:
-
goose → geese (ห่าน),
-
ox → oxen (วัว),
-
person → people (คน),
-
louse → lice (เห็บ),
-
index → indices (ดัชนี),
-
curriculum → curricula (หลักสูตร),
-
appendix → appendices (ภาคผนวก)
คำนามเดี่ยว (Simple Nouns) และคำนามผสม (Compound Nouns)
ในระบบคำนามภาษาอังกฤษ มีสองประเภทที่พบได้บ่อย คือ คำนามเดี่ยว (Simple Nouns) และคำนามผสม (Compound Nouns)
การแยกแยะระหว่างทั้งสองประเภทนี้จะช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจวิธีการสร้างและใช้วลีคำนามได้อย่างถูกต้องในการสื่อสารและการเขียนทางวิชาการ
ประเภทคำนาม |
วิธีการระบุ |
ตัวอย่าง |
คำนามเดี่ยว (Simple Nouns) |
ประกอบด้วยคำเดียว |
Banana (กล้วย), Mango (มะม่วง), Arm (แขน) |
คำนามผสม (Compound Nouns) |
ประกอบด้วยสองคำที่รวมกันมีความหมายร่วมกัน |
Toothbrush (แปรงสีฟัน), Butterfly (ผีเสื้อ), Friendship (มิตรภาพ) |
วลีคำนามในภาษาอังกฤษ (Noun Phrases)
วลีคำนามในภาษาอังกฤษคือการรวมกันของคำนามกับคำประเภทอื่น ๆ เพื่อสร้างความหมายใหม่ โดยมีหน้าที่เป็นประธาน กริยาส่วนเติมเต็ม หรือกรรมของประโยค
ตัวอย่าง:
-
A smart boy (เด็กชายที่ฉลาด)
-
Two joyful kids (เด็กสองคนที่มีความสุข)
-
A handful of salt (เกลือหนึ่งหยิบมือ)
-
I’m talking to a cute girl. (ฉันกำลังคุยกับผู้หญิงน่ารักคนหนึ่ง)
Gerunds (คำนามที่ได้จากคำกริยา)
Gerund คือรูปของคำกริยาที่เติม -ing แล้วทำหน้าที่เป็นคำนาม สามารถเป็นประธาน กรรม หรือส่วนเติมเต็มในประโยคได้
โครงสร้าง: Gerund = Verb + ING
Gerund เป็นประธานของประโยค:
Doing exercise daily will make you more happy. (การออกกำลังกายทุกวันจะทำให้คุณมีความสุขมากขึ้น)
Gerund เป็นกรรมของประโยค:
I enjoy listening to music. (ฉันชอบฟังเพลง)
Gerund เป็นส่วนเติมเต็มของประโยค:
Her hobby is collecting coins. (งานอดิเรกของเธอคือการสะสมเหรียญ)
คำนามทั่วไป (Common Nouns) และคำนามเฉพาะ (Proper Nouns)
คำนามทั่วไป (Common Nouns)
คือคำนามที่ใช้เรียกสิ่งของหรือบุคคลทั่วไป
ตัวอย่าง: student (นักเรียน), phone (โทรศัพท์), towel (ผ้าขนหนู), laptop (แล็ปท็อป)
คำนามเฉพาะ (Proper Nouns)
คือคำนามที่ใช้เรียกชื่อเฉพาะของบุคคล สถานที่ สิ่งของ ฯลฯ
ตัวอย่าง: Mr. Brandon (มิสเตอร์แบรนดอน), Hawaii (ฮาวาย), China (ประเทศจีน)
คำนามแสดงความเป็นเจ้าของ (Possessive Nouns)
คือคำนามที่ใช้แสดงความเป็นเจ้าของของบุคคลหรือสิ่งของ
โครงสร้าง: เจ้าของ + ‘s + สิ่งที่ถูกเป็นเจ้าของ
ตัวอย่าง:
-
My mom’s car (รถของแม่ฉัน)
-
Jane’s birthday party (งานวันเกิดของเจน)
-
Mai’s pizza (พิซซ่าของไหม)
กรณีพิเศษ:
ชื่อเฉพาะลงท้ายด้วย “s” – ใช้ได้ทั้ง ‘s หรือ ‘ อย่างเดียว
James’s car หรือ James’ car (รถของเจมส์)
คำนามเอกพจน์/พหูพจน์ที่ไม่มี “s”
Her children’s toys are all new. (ของเล่นของลูก ๆ เธอทั้งหมดใหม่)
คำนามพหูพจน์ที่ลงท้ายด้วย “s” – เพิ่ม ‘ เท่านั้น
Some students’ grades are better this year. (เกรดของนักเรียนบางคนปีนี้ดีกว่าเดิม)
คำนามประสม – เติม ’s ที่คำนามสุดท้าย
The bus stop near my house (ป้ายรถเมล์ใกล้บ้านฉัน)
คำนามรูปธรรม (Concrete Nouns) และคำนามนามธรรม (Abstract Nouns)
การจำแนกคำนามอีกแบบหนึ่งคือพิจารณาจากการรับรู้ด้วยประสาทสัมผัส
ประเภทคำนาม |
ความหมาย |
ตัวอย่าง |
Concrete Nouns (คำนามรูปธรรม) |
สิ่งที่สามารถมองเห็น สัมผัส ได้ยิน ชิม หรือดมได้ |
Money (เงิน), drinks (เครื่องดื่ม), bread (ขนมปัง), flower (ดอกไม้), table (โต๊ะ) |
Abstract Nouns (คำนามนามธรรม) |
สิ่งที่ไม่สามารถรับรู้ด้วยประสาทสัมผัสโดยตรง มักเกี่ยวข้องกับอารมณ์ ความรู้สึก |
Belief (ความเชื่อ), betrayal (การทรยศ), hope (ความหวัง), love (ความรัก) |
แบบฝึกหัดเกี่ยวกับคำนาม (Noun)
แบบฝึกหัดที่ 1: คำนามเอกพจน์ – พหูพจน์ (เปลี่ยนคำนามในวงเล็บให้เป็นรูปที่ถูกต้อง)
-
There are two (child) __________ in the park.
มีเด็กสองคนในสวนสาธารณะ -
I have three (book) __________ on my desk.
ฉันมีหนังสือสามเล่มบนโต๊ะ -
Those (man) __________ are teachers.
ผู้ชายเหล่านั้นเป็นครู -
The (mouse) __________ are running around.
หนูกำลังวิ่งไปรอบๆ -
We saw many (sheep) __________ on the farm.
เราพบแกะมากมายในฟาร์ม -
She bought some (tomato) __________ for dinner.
เธอซื้อมะเขือเทศบางส่วนสำหรับมื้อเย็น -
The (woman) __________ are waiting outside.
ผู้หญิงกำลังรออยู่ข้างนอก -
There are several (bus) __________ at the station.
มีรถบัสหลายคันที่สถานี
คำตอบ:
-
children
-
books
-
men
-
mice
-
sheep
-
tomatoes
-
women
-
buses
แบบฝึกหัดที่ 2: คำนามนับได้และนับไม่ได้
(เลือกคำว่า “much”, “many” หรือ “a lot of”)
-
There aren’t ___ chairs in the room.
ไม่มีเก้าอี้ในห้องเลย -
She doesn’t drink ___ coffee.
เธอไม่ดื่มกาแฟเลย -
I have ___ friends at school.
ฉันมีเพื่อนที่โรงเรียนหลายคน -
There isn’t ___ water in the bottle.
ไม่มีน้ำในขวดมาก -
How ___ books do you read every month?
คุณอ่านหนังสือกี่เล่มทุกเดือน? -
We don’t have ___ sugar left.
เรามีน้ำตาลเหลือน้อยมาก -
He has ___ money in his wallet.
เขามีเงินในกระเป๋าเยอะ -
Are there ___ apples in the fridge?
มีแอปเปิ้ลในตู้เย็นเยอะไหม?
คำตอบ:
-
many
-
much
-
a lot of / many
-
much
-
many
-
much
-
a lot of / much
-
many
แบบฝึกหัดที่ 3: คำนามที่แสดงความเป็นเจ้าของ (Possessive Nouns)
(เติมคำว่า ‘s หรือ ’ ในช่องว่าง)
-
This is my (brother) __________ bike.
นี่คือจักรยานของพี่ชายฉัน -
We are going to (John) __________ house.
เรากำลังไปบ้านของจอห์น -
The (children) __________ toys are on the floor.
ของเล่นของเด็กๆ อยู่บนพื้น -
That is the (teacher) __________ bag.
นั่นคือกระเป๋าของคุณครู -
(Mr. and Mrs. Smith) __________ car is very expensive.
รถของคุณสมิธและภรรยาของเขาราคาแพงมาก -
I met (Susan) __________ parents yesterday.
เมื่อวานนี้ฉันเจอพ่อแม่ของซูซาน -
The (dog) __________ tail is very long.
หางของสุนัขยาวมาก -
(The boys) __________ football is new.
ฟุตบอลของเด็กผู้ชายใหม่มาก
คำตอบ:
-
brother’s
-
John’s
-
children’s
-
teacher’s
-
Mr. and Mrs. Smith’s
-
Susan’s
-
dog’s
-
boys’
สรุป
Monkey หวังว่าคำแนะนำที่ได้แชร์ไปจะช่วยให้คุณได้รับความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคำนาม (Noun) และสามารถมั่นใจมากขึ้นในการทำแบบทดสอบต่างๆ อย่าลืมฝึกฝนบ่อยๆ เพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของคุณให้ดีขึ้นนะครับ!