บุพบทภาษาอังกฤษ: ความหมาย ประเภท และวิธีใช้โดยละเอียด
เคล็ดลับการเรียนรู้ (TH)

บุพบทภาษาอังกฤษ: ความหมาย ประเภท และวิธีใช้โดยละเอียด

การปรึกษาบทความ:

Hoàng Mỹ Hạnh

Hoàng Mỹ Hạnh

Thạc sĩ Ngôn ngữ - Chuyên gia Giáo dục sớm

ผู้เขียน: Hoàng Hà

วันที่อัปเดต: 19/09/2025

เนื้อหาหลัก

บุพบท (Prepositions) ในภาษาอังกฤษเป็นชนิดคำที่ผู้เรียนภาษาอังกฤษทุกคนต้องพบเจอและใช้อยู่บ่อยครั้ง ความหลากหลายของบุพบทนี่เองที่ทำให้ผู้เรียนมักสับสนในการเลือกใช้บุพบทที่ถูกต้องในบริบทต่าง ๆ ดังนั้นในบทความนี้ Monkey จะช่วยคุณเสริมความรู้เกี่ยวกับบุพบท เพื่อให้คุณสามารถใช้บุพบทได้อย่างถูกต้องที่สุดเสมอ ดังนั้นในบทความนี้ Monkey จะช่วยคุณเสริมความรู้เกี่ยวกับบุพบท เพื่อให้คุณสามารถใช้บุพบทได้อย่างถูกต้องที่สุดเสมอ

บุพบทคืออะไร?

บุพบท คือคำที่บอกเวลา ตำแหน่ง หรือความสัมพันธ์ระหว่างคำอื่น ๆ ในวลีหรือประโยค บุพทถถูกใช้ในประโยคเพื่อเชื่อมโยงคำหรือกลุ่มคำ ช่วยให้ผู้อ่านหรือผู้ฟังเข้าใจความหมายของประโยคและบริบทได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

บุพบทมีหลักการใช้งานเฉพาะ ซึ่งผู้เรียนจำเป็นต้องใส่ใจเมื่อต้องเรียนรู้และใช้งานในแต่ละประเภท

ตัวอย่าง: I was born in 2000 : ฉันเกิดในปี 2000

ในประโยคนี้ คำบุพบทคือ in ซึ่งไม่สามารถละได้ หากต้องการให้ประโยคมีความหมายที่ถูกต้อง

ลักษณะของบุพบทในภาษาอังกฤษ (ภาพ: รวบรวมจากอินเทอร์เน็ต)

หน้าที่ของบุพบทในประโยค

บุพบทภาษาอังกฤษสามารถทำหน้าที่ได้หลายบทบาทเพื่อสร้างความหมายที่สมบูรณ์ให้กับประโยค หน้าที่หลักของบุพบทมีดังนี้:

  • แสดงเวลา (Time): ใช้เพื่อระบุช่วงเวลาที่เหตุการณ์เกิดขึ้น ตัวอย่าง: I will meet you at 8 PM on Monday. (ฉันจะพบคุณตอนสองทุ่มวันจันทร์)

  • แสดงสถานที่หรือที่ตั้ง (Place/Position): ใช้เพื่อบรรยายตำแหน่งของบุคคลหรือวัตถุ ตัวอย่าง: The cat is hiding under the bed. (แมวกำลังซ่อนอยู่ใต้เตียง)

  • แสดงทิศทางหรือการเคลื่อนไหว (Direction/Movement): ใช้เพื่อบอกทิศทางของการเคลื่อนที่. ตัวอย่าง: She is walking towards the station. (เธอกำลังเดินไปทางสถานี)

  • แสดงสาเหตุหรือวัตถุประสงค์ (Cause/Purpose): ใช้เพื่ออธิบายเหตุผลหรือเป้าหมายของการกระทำ ตัวอย่าง: He studied hard for the exam. (เขาเรียนอย่างหนักเพื่อการสอบ)

  • แสดงวิธีการหรือพาหนะ (Manner/Means): ใช้เพื่อบอกว่าการกระทำเกิดขึ้นได้อย่างไรหรือด้วยวิธีใด ตัวอย่าง: We travel to Da Nang by plane. (พวกเราเดินทางไปดานังโดยเครื่องบิน)

  • แสดงความเป็นเจ้าของหรือความสัมพันธ์ (Possession/Relation): ใช้เพื่อแสดงความเกี่ยวข้องระหว่างสิ่งต่าง ๆ. ตัวอย่าง: She is a friend of mine. (เธอเป็นเพื่อนของฉัน)

ตำแหน่งที่พบบ่อยของบุพบทในประโยค

การเข้าใจตำแหน่งของบุพบทจะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์พื้นฐาน และสร้างประโยคได้อย่างถูกต้อง

  • วางหลังคำคุณศัพท์ (Adjective): ตัวอย่าง: She is fond of traveling. (เธอชอบการท่องเที่ยว)

  • วางหลังคำกริยาทั่วไป (Verb): ตัวอย่าง: He is listening to music. (เขากำลังฟังเพลง)

  • วางระหว่าง verb to be และคำนาม (Noun): ตัวอย่าง: The dog is under the desk. (สุนัขอยู่ใต้โต๊ะ)

  • วางหลังคำนามเพื่อขยายความ (Noun): ตัวอย่าง: He is a teacher of physics. (เขาเป็นครูสอนฟิสิกส์)

การจำแนกและการใช้บุพบทในภาษาอังกฤษ

ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ที่ต้องการสื่อ บุพบทในภาษาอังกฤษจึงแบ่งออกเป็นหลายกลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มมีวิธีการใช้แตกต่างกันไป

บุพบทบอกตำแหน่งหรือสถานที่

นี่เป็นกลุ่มบุพบทที่พบบ่อยที่สุดในภาษาอังกฤษ ใช้เพื่อบอกว่าวัตถุหรือบุคคลอยู่ที่ไหน

บุพบท (Preposition)

วิธีใช้

ตัวอย่าง (Example)

In

ใช้บอกว่าบางสิ่งอยู่ภายในพื้นที่ปิด พื้นที่ขนาดใหญ่ หรือพื้นที่ทางภูมิศาสตร์

My wallet is in my pocket. (กระเป๋าสตางค์ของฉันอยู่ในกระเป๋ากางเกง)

On

ใช้บอกว่าบางสิ่งอยู่บนพื้นผิวราบ

The laptop is on the desk. (แล็ปท็อปอยู่บนโต๊ะ)

At

ใช้บอกจุดหนึ่ง ที่อยู่เฉพาะ หรือสถานที่เล็ก ๆ

Let’s meet at the coffee shop. (มาพบกันที่ร้านกาแฟกันเถอะ)

Under

ใช้บอกว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่ข้างใต้สิ่งอื่น

The cat is sleeping under the chair. (แมวนอนอยู่ใต้เก้าอี้)

Above

ใช้บอกว่าบางสิ่งอยู่ด้านบนแต่ไม่สัมผัสโดยตรง

The airplane is flying above the clouds. (เครื่องบินกำลังบินอยู่เหนือเมฆ)

Between

ใช้บอกว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่ระหว่างสองสิ่ง

She sat between her two best friends. (เธอนั่งอยู่ระหว่างเพื่อนสนิทสองคน)

Near

ใช้บอกว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่ใกล้ตำแหน่ง

Our house is near the supermarket. (บ้านของเราอยู่ใกล้ซูเปอร์มาร์เก็ต)

บุพบทบอกเวลา (Prepositions of Time)

เมื่อจำเป็นต้องบอกเวลาที่การกระทำเกิดขึ้น คุณจะใช้บุพบทบอกเวลาต่อไปนี้

บุพบท

วิธีใช้

ตัวอย่าง

At

ใช้กับเวลาที่แน่นอนในวัน หรือในโอกาสพิเศษ

The meeting starts at 9 AM. (การประชุมเริ่มเวลา 9 โมงเช้า)

On

ใช้กับวันในสัปดาห์ หรือวันที่ที่เจาะจง

Her birthday is on October 25th. (วันเกิดของเธอคือวันที่ 25 ตุลาคม)

In

ใช้กับเดือน ฤดูกาล ปี ศตวรรษ หรือช่วงเวลาในวัน (ยกเว้น at night)

I love traveling in the summer. (ฉันชอบท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อน)

Before

ก่อนเวลาหรือเหตุการณ์

Please finish your homework before dinner. (กรุณาทำการบ้านให้เสร็จก่อนอาหารเย็น)

After

หลังเวลาหรือเหตุการณ์

We went for a walk after lunch. (พวกเราไปเดินเล่นหลังอาหารกลางวัน)

During

ตลอดช่วงเวลา

He fell asleep during the movie. (เขาหลับระหว่างดูหนัง)

บุพบทบอกทิศทาง (Prepositions of Direction)

ใช้เพื่อบรรยายการเคลื่อนไหวจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง

บุพบท

วิธีใช้

ตัวอย่าง

To

เคลื่อนที่ไปยังจุดหมายปลายทางที่แน่นอน

She is going to the library. (เธอกำลังไปห้องสมุด)

From

เคลื่อนที่ออกจากจุดเริ่มต้น

He just came back from Japan. (เขาเพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่น)

Into

เข้าไปในพื้นที่ภายใน

The kids ran into the house. (เด็ก ๆ วิ่งเข้าไปในบ้าน)

Out of

ออกไปจากพื้นที่ภายใน

Please take the trash out of the room. (กรุณานำขยะออกจากห้อง)

Towards

เคลื่อนที่ไปทาง/ไปสู่บางสิ่ง

He walked towards the sea. (เขาเดินไปทางทะเล)

บุพบทบอกผู้กระทำ (Prepositions of Agent)

ใช้เพื่อบอกผู้ที่ทำการกระทำ มักใช้ในประโยค Passive Voice

บุพบท

วิธีใช้

ตัวอย่าง

By

ถูกกระทำโดยใครหรือสิ่งใด

The book was written by a famous author. (หนังสือเล่มนี้เขียนโดยนักเขียนที่มีชื่อเสียง)

With

พร้อมกับ หรือใช้เครื่องมือ/ความช่วยเหลือ

The report was prepared with the help of the entire team. (รายงานถูกจัดทำด้วยความช่วยเหลือจากทั้งทีม)

บุพบทบอกวิธีการ/เครื่องมือ (Prepositions of Means/Instrument)

บุพบท

วิธีใช้

ตัวอย่าง

By

โดยใช้ยานพาหนะ

We traveled to the countryside by car. (พวกเราเดินทางไปชนบทโดยรถยนต์)

With

โดยใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์

He fixed the chair with a hammer. (เขาซ่อมเก้าอี้ด้วยค้อน)

On

โดยการเดิน (on foot) หรือพาหนะที่มีพื้นผิว

I go to school on foot every day. (ฉันเดินไปโรงเรียนทุกวัน)

บุพบทบอกเหตุผล/วัตถุประสงค์ (Prepositions of Reason/Purpose)

บุพบท

วิธีใช้

ตัวอย่าง

For

เพราะเหตุผลหรือเป้าหมายบางอย่าง

She is studying hard for her future. (เธอกำลังตั้งใจเรียนเพื่ออนาคตของเธอ)

Because of

เพราะสาเหตุบางอย่าง (ตามด้วยคำนาม/วลีคำนาม)

The flight was delayed because of the bad weather. (เที่ยวบินล่าช้าเพราะสภาพอากาศเลวร้าย)

To

เพื่อทำบางสิ่ง (ตามด้วยกริยา infinitive)

He works out every day to stay healthy. (เขาออกกำลังกายทุกวันเพื่อให้สุขภาพแข็งแรง)

บุพบทบอกความสัมพันธ์ (Prepositions of Relationship)

บุพบท

วิธีใช้

ตัวอย่าง

Of

แสดงความเป็นเจ้าของหรือความสัมพันธ์

He is the manager of this company. (เขาเป็นผู้จัดการของบริษัทนี้)

With

มี/พร้อมกับ บอกความเกี่ยวข้องหรือคุณลักษณะ

I saw a man with a red hat. (ฉันเห็นผู้ชายคนหนึ่งใส่หมวกสีแดง)

บุพบทบอกแหล่งกำเนิด (Prepositions of Origin)

บุพบท

วิธีใช้

ตัวอย่าง

From

จาก/มาจาก (บอกแหล่งกำเนิด/ต้นทาง)

This coffee is from Brazil. (กาแฟนี้มาจากบราซิล)

Of

ทำจาก (วัสดุที่ไม่เปลี่ยนแปลงหลังผลิต)

This table is made of wood. (โต๊ะนี้ทำจากไม้)

วลีบุพบทในภาษาอังกฤษ (Prepositional Phrases)

วลีบุพบท (prepositional phrase) คือกลุ่มคำที่ขึ้นต้นด้วยบุพบทและตามด้วยกลุ่มนาม วลีนี้มักทำหน้าที่ขยายความในประโยค ช่วยให้ผู้อ่านหรือผู้ฟังเข้าใจชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับตำแหน่ง เวลา สาเหตุ หรือวิธีการเกิดขึ้นของการกระทำ

การจำแนกวลีบุพบท

วลีบุพบทในภาษาอังกฤษสามารถจำแนกได้ตามหน้าที่ในประโยค โดยหลัก ๆ มีดังนี้:

วลีบุพบททำหน้าที่เป็นกริยาวิเศษณ์ (Adverbial Phrase):
ขยายข้อมูลเกี่ยวกับเวลา สถานที่ เหตุผล วิธีการ ฯลฯ

ตัวอย่าง: She left in a hurry. (เธอออกไปอย่างรีบร้อน)

วลีบุพบทขยายคำนาม (Noun Complement):
อธิบายคำนามที่อยู่ข้างหน้าให้ชัดเจนขึ้น

ตัวอย่าง: The book on the table is mine. (หนังสือบนโต๊ะเป็นของฉัน)

วลีบุพบทขยายกริยา หรือคำคุณศัพท์ (Verb/Adjective Complement):
ช่วยทำให้ความหมายของการกระทำหรือสภาวะชัดเจนขึ้น

ตัวอย่าง: He is afraid of spiders. (เขากลัวแมงมุม)

การใช้วลีบุพบท

วลีบุพบทสามารถวางได้หลายตำแหน่งในประโยค ได้แก่ ต้นประโยค กลางประโยค หรือท้ายประโยค ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบทบาทของมัน สิ่งสำคัญคือต้องวางวลีบุพบทให้ตรงกับส่วนที่ต้องการขยายความ และไม่แยกบุพบทออกจากกลุ่มนามที่ตามมา

ตัวอย่าง:

  • After the meeting, we went for lunch. (หลังการประชุม เราไปทานอาหารกลางวัน)
    → วลีบุพบทอยู่ต้นประโยค ทำหน้าที่เป็นกริยาวิเศษณ์บอกเวลา

  • She’s good at playing the piano. (เธอเก่งในการเล่นเปียโน)
    → วลีบุพททำหน้าที่ขยายคำคุณศัพท์ “good”

วิธีใช้บุพบทในประโยค

บุพบท (Preposition) ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างส่วนต่าง ๆ ของประโยค ช่วยอธิบายความสัมพันธ์ด้านเวลา สถานที่ เหตุผล หรือวิธีการอย่างชัดเจน เมื่อใช้บุพบท สิ่งสำคัญคือต้องระบุตำแหน่งที่ถูกต้องและคำขยายที่ตามมา เพื่อให้ประโยคถูกต้องตามหลักไวยากรณ์และสื่อความหมายได้ครบถ้วน

ก่อนและหลังบุพบทคืออะไร?

โดยทั่วไป บุพบทจะปรากฏหลังคำกริยา (verb), คำนาม (noun) หรือคำคุณศัพท์ (adjective) ที่มันทำหน้าที่ขยาย และ หลังบุพบทต้องตามด้วยกลุ่มคำนาม (noun phrase) หรือคำสรรพนาม (pronoun) เสมอเพื่อให้โครงสร้างและความหมายสมบูรณ์

ตัวอย่าง: He’s afraid of the dark. (เขากลัวความมืด)

บุพบท + กลุ่มคำนาม (Preposition + Noun Phrase)

บุพบทมักจะมาพร้อมกับกลุ่มคำนามเพื่อสร้างเป็นวลีบุพบท (prepositional phrase) ซึ่งทำหน้าที่เสริมข้อมูลเกี่ยวกับเวลา สถานที่ เหตุผล หรือวิธีการ

ตัวอย่าง: We stayed at a beautiful hotel. (พวกเราเข้าพักที่โรงแรมสวยแห่งหนึ่ง)

บุพบท + V-ing หรือ to + V?

ในภาษาอังกฤษ หลังบุพบทมักใช้กริยารูป V-ing เสมอ ไม่ใช้ to + V
นี่คือกฎพื้นฐานที่ผู้เรียนมักสับสน โดยเฉพาะในกรณีที่มี to อยู่ในสำนวนคงที่ เช่น be used to, look forward to ซึ่งในกรณีเหล่านี้ to เป็นบุพบท → กริยาที่ตามมาจะต้องอยู่ในรูป V-ing

ตัวอย่าง: She is looking forward to meeting you. (เธอตั้งตารอที่จะได้พบคุณ)

การใช้บุพบทใน Phrasal Verbs

Phrasal verbs คือกลุ่มคำที่ประกอบด้วยกริยาหลัก + บุพบท หรือ กริยาวิเศษณ์ ซึ่งจะสร้างความหมายใหม่ที่ไม่สามารถเดาได้จากความหมายเดิมของกริยาหลัก

การใช้บุพบทที่ถูกต้องใน phrasal verbs เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้การพูดภาษาอังกฤษเป็นธรรมชาติและถูกต้อง

ตัวอย่าง: He gave up smoking. (เขาเลิกสูบบุหรี่แล้ว)

บาง phrasal verbs จะมีบุพบทตายตัวที่ไม่สามารถเปลี่ยนหรือตัดออกได้ ผู้เรียนควรจดจำเป็นวลีเต็ม ๆ จึงจะใช้ได้ถูกต้อง

ตัวอย่าง: She takes care of her grandmother. (เธอดูแลคุณยายของเธอ)

ควรเข้าใจโครงสร้างการใช้บุพบทในภาษาอังกฤษ (ภาพ: รวบรวมจากอินเทอร์เน็ต)

ข้อควรระวังในการใช้บุพบท

เมื่อใช้บุพบท คุณต้องระวังเพราะ แต่ละบุพบทมีความหมายและวิธีใช้เฉพาะตัว ดังนั้นจำเป็นต้องเลือกใช้บุพบทให้ถูกต้องเพื่อสื่อความหมายได้อย่างชัดเจนและแม่นยำ

บุพบทที่มักทำให้สับสน

บางบุพบทอาจทำให้ผู้เรียนสับสน เช่น "in" และ "into", "on" และ "onto", "at" และ "to"
เพื่อแยกความแตกต่าง คุณต้องใส่ใจ บริบท (context) และ ความหมายของประโยค

ตัวอย่าง:

  • She drove to the store. (เธอขับรถไปที่ร้านค้า)

  • Don’t ring the doorbell. Come right in(to) the house. (อย่ากดกริ่งบ้าน เข้ามาในบ้านเลย)

  • Drive on(to) the grass and park the car there. (ขับรถขึ้นไปบนสนามหญ้าแล้วจอดที่นั่น)

ความหมายต่างกันตามบุพบท

หลายกรณี ถึงแม้จะพูดถึงสถานที่เดียวกัน แต่การใช้บุพบทต่างกันจะทำให้ความหมายของประโยคเปลี่ยนไป

ตัวอย่าง:

  • The submarine is in the sea. (เรือดำน้ำอยู่ในทะเล → อยู่ใต้น้ำ)

  • The submarine is at sea. (เรือดำน้ำอยู่กลางทะเล → หมายถึงอยู่ที่ทะเล โดยไม่เน้นตำแหน่งใดเป็นพิเศษ)

  • The submarine is on the sea. (เรือดำน้ำอยู่บนผิวน้ำทะเล → เน้นตำแหน่งบนผิวน้ำ)

แบบฝึกหัดการใช้บุพบท

แบบฝึกหัดที่ 1: เติมบุพบทที่ถูกต้อง

(เติมคำบุพบทที่ถูกต้อง: in, on, at, to, with, by, about, for, from, of)

  1. She lives ___ Bangkok.

  2. We usually go to school ___ bus.

  3. The book is ___ the table.

  4. He is interested ___ learning English.

  5. They arrived ___ the airport late.

  6. She talked ___ her friend on the phone.

  7. This gift is ___ my mother.

  8. The man is afraid ___ dogs.

  9. The students are waiting ___ the teacher.

  10. The letter is ___ my best friend.

คำตอบ:

  1. in

  2. by

  3. on

  4. in / about

  5. at

  6. with

  7. for

  8. of

  9. for

  10. from

แบบฝึกหัดที่ 2: เลือกคำตอบที่ถูกต้อง

  1. I usually get up ___ 6 a.m.
    A. on – B. in – C. at – D. from

  2. The children are playing ___ the garden.
    A. at – B. on – C. in – D. to

  3. He is very good ___ math.
    A. in – B. with – C. at – D. on

  4. We are looking forward ___ our holiday.
    A. for – B. to – C. at – D. about

  5. My father is fond ___ reading newspapers.
    A. in – B. with – C. on – D. of

  6. The picture is hanging ___ the wall.
    A. on – B. in – C. at – D. to

  7. She is worried ___ her exam.
    A. of – B. at – C. about – D. with

  8. He usually goes to school ___ bike.
    A. on – B. by – C. with – D. in

  9. We arrived ___ London yesterday.
    A. at – B. to – C. in – D. into

  10. The cat is hiding ___ the bed.
    A. in – B. at – C. under – D. on

คำตอบ:

  1. C (at)

  2. C (in)

  3. C (at)

  4. B (to)

  5. D (of)

  6. A (on)

  7. C (about)

  8. B (by)

  9. C (in)

  10. C (under)

แบบฝึกหัดที่ 3: แก้ไขความผิดพลาดเกี่ยวกับบุพบท

(แต่ละประโยคมีข้อผิดพลาด 1 จุด ให้ขีดเส้นใต้และแก้ให้ถูกต้อง)

  1. She is married with a doctor.

  2. The students are waiting at the bus.

  3. He is interested on football.

  4. They usually go to school in foot.

  5. My birthday is in May 10th.

  6. We are listening at music.

  7. The book was written from Shakespeare.

  8. He is good on English.

  9. The children are afraid from the dark.

  10. She is going at home now.

คำตอบ:

  1. with → to

  2. at → for

  3. on → in/about

  4. in → on

  5. in → on

  6. at → to

  7. from → by

  8. on → at

  9. from → of

  10. at → (Ø) (ไม่ใช้บุพบท)

สรุป

บทเรียนข้างต้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับบุพบท ซึ่งทุกคนควรศึกษาและจดจำเพื่อนำไปใช้ในการสอบ IELTS ได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ การเรียนรู้บุพบทมีความสำคัญมาก เพราะเกี่ยวข้องโดยตรงกับการสร้างประโยค ดังนั้นทุกคนควรใส่ใจและฝึกฝนให้มากขึ้น

ข้อมูลในบทความนี้ถูกรวบรวมขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการอ้างอิงเท่านั้น และอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า กรุณาตรวจสอบข้อมูลผ่านช่องทางอย่างเป็นทางการ หรือติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงเพื่อรับทราบข้อมูลล่าสุด

บทความล่าสุด

ลงทะเบียนรับคำปรึกษา

และโปรโมชั่น Monkey Stories