วิธีการเรียนรู้แบบ Shadowing คืออะไร? วิธีใช้เทคนิค Shadowing ในการสอนภาษาอังกฤษให้เด็ก
เคล็ดลับการเรียนรู้ (TH)

วิธีการเรียนรู้แบบ Shadowing คืออะไร? วิธีใช้เทคนิค Shadowing ในการสอนภาษาอังกฤษให้เด็ก

ผู้เขียน: Hoàng Hà

วันที่อัปเดต: 03/07/2025

เนื้อหาหลัก

วิธี Shadowing เป็นหนึ่งในเทคนิคการเรียนภาษาอังกฤษที่มีประสิทธิภาพมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหมาะสำหรับเด็กในช่วงพัฒนาทักษะทางภาษา ด้วยการเลียนเสียงสูงต่ำ การออกเสียง และความเร็วในการพูดของเจ้าของภาษา เด็กจะสามารถพัฒนาทักษะการฟังและการพูดได้อย่างเป็นธรรมชาติ แล้วเทคนิค Shadowing คืออะไร และจะนำมาใช้กับเด็กได้อย่างไร? มาค้นหาคำตอบไปพร้อมกับ Monkey ในบทความนี้กันเถอะ

วิธีการ Shadowing คืออะไร?

วิธี Shadowing เป็นเทคนิคฝึกฟังและพูดในการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากโดยเฉพาะในการเรียนภาษาอังกฤษ คำว่า “Shadowing” หมายถึง “การเลียนแบบทันที” โดยผู้เรียนจะฟังเสียงจากคลิปเสียง (ซึ่งมักจะเป็นเจ้าของภาษา) แล้วพูดตามแทบจะพร้อมกัน โดยเลียนเสียงสูงต่ำ ความเร็ว และการออกเสียงของผู้พูด

ลักษณะเด่นของวิธี Shadowing ได้แก่:

  • ผู้เรียนจะไม่หยุดเพื่อแปลหรือจดบันทึก แต่จะเน้นการพูดตามอย่างต่อเนื่อง

  • ช่วยพัฒนาทักษะการฟังแบบตอบสนอง การออกเสียงที่ถูกต้อง และความคล่องแคล่วในการพูด

  • สามารถใช้ฝึกกับสื่อ เช่น ภาพยนตร์ พอดแคสต์ นิทานเสียง หรือบทสนทนา

  • วิธีนี้ใช้ได้ผลดีกับทั้งผู้ใหญ่และเด็ก โดยเฉพาะถ้าเริ่มฝึกตั้งแต่ยังเล็ก เด็กจะคุ้นเคยกับเสียงภาษาอังกฤษได้อย่างเป็นธรรมชาติ เหมือนกับการเรียนรู้ภาษาแม่

Shadowing คือวิธีการฟังและพูดตามเจ้าของภาษา (ภาพ: รวบรวมจากอินเทอร์เน็ต)

ข้อดีของการสอนภาษาอังกฤษให้เด็กด้วยวิธี Shadowing

วิธี Shadowing ไม่เพียงแต่เหมาะกับผู้ใหญ่เท่านั้น แต่ยังมีประสิทธิภาพมากเมื่อใช้กับเด็กเล็ก การให้เด็กฝึกฟังและพูดตามเจ้าของภาษาจะช่วยเสริมสร้างทักษะภาษาอังกฤษได้อย่างโดดเด่น โดยมีข้อดีที่สำคัญดังนี้:

  • ช่วยให้เด็กออกเสียงได้ถูกต้องตั้งแต่แรกเริ่ม: เด็กจะฝึกออกเสียงโดยการพูดตามคำและประโยคของเจ้าของภาษาอย่างแม่นยำ ซึ่งจะช่วยสร้างนิสัยการพูดที่ถูกต้องตั้งแต่ต้น

  • พัฒนาทักษะการฟัง–พูดอย่างเป็นธรรมชาติ: Shadowing ช่วยให้เด็กฝึกการตอบสนองในการสื่อสารได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องแปลเป็นภาษาไทย ทำให้ทั้งทักษะการฟังและการพูดดีขึ้นพร้อมกัน

  • เพิ่มความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษ: เมื่อเด็กได้ฝึกพูดตามต้นแบบเป็นประจำ จะคุ้นเคยกับการพูดภาษาอังกฤษมากขึ้น ลดความเขินอาย และกล้าพูดมากขึ้นในการสื่อสารจริง

  • เรียนรู้ภาษาอังกฤษเหมือนภาษาแม่: เด็กมีความสามารถในการเลียนแบบได้ดีมาก วิธี Shadowing ใช้จุดเด่นนี้ช่วยให้เด็กเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้อย่างเป็นธรรมชาติ เหมือนกับตอนเรียนรู้ภาษาไทย

  • สร้างความสนุกสนาน ไม่กดดัน: การเรียนผ่านบทสนทนาสนุก ๆ การ์ตูน หรือเพลง ช่วยให้เด็กเรียนอย่างมีความสุข สนุกสนาน และสร้างนิสัยการเรียนอย่างสม่ำเสมอได้ง่ายขึ้น

เพิ่มความสามารถในการรับรู้ภาษาโดยใช้วิธี Shadowing (ภาพ: รวบรวมจากอินเทอร์เน็ต)

วิธีการใช้เทคนิค Shadowing ในการสอนภาษาอังกฤษให้เด็ก

แม้ว่าวิธี Shadowing จะเรียบง่าย แต่หากต้องการใช้ให้ได้ผลกับเด็ก ผู้ปกครองควรเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมและแนะนำให้เด็กฝึกอย่างถูกวิธี ต่อไปนี้คือขั้นตอนและเคล็ดลับที่จะช่วยให้เด็กเรียนภาษาอังกฤษด้วย Shadowing ได้อย่างมีประสิทธิภาพ:

1. เลือกสื่อการเรียนที่เหมาะกับวัยของเด็ก

การเลือกสื่อที่เหมาะสมเป็นขั้นตอนแรกและสำคัญมาก หากเนื้อหายากเกินไปหรือไม่ตรงกับความสนใจ เด็กอาจเบื่อและหมดกำลังใจ ควรเลือกสื่อที่ใช้ภาษาง่าย เสียงชัดเจน ความเร็วพอเหมาะ และเนื้อหาใกล้เคียงกับชีวิตประจำวันของเด็ก

ตัวอย่าง: เด็กอายุ 4–6 ปี อาจใช้วิดีโอ Peppa Pig, Super Simple Songs หรือหนังสือเสียง The Very Hungry Caterpillar

2. ให้เด็กฟังตัวอย่างก่อน เพื่อคุ้นเคยกับเสียงภาษาอังกฤษ

ก่อนที่จะพูดตาม ให้เด็กฟังเสียงภาษาอังกฤษหลายครั้ง เพื่อให้คุ้นกับจังหวะ เสียงสูงต่ำ และโทนเสียง ขั้นตอนนี้ช่วยสร้าง “หูภาษาอังกฤษ” — ความสามารถในการแยกและเข้าใจเสียงได้อย่างเป็นธรรมชาติ

วิธีทำ:

  • เปิดคลิปสั้น ๆ (10–15 วินาที) จากวิดีโอหรือเสียงที่เลือกไว้

  • ให้เด็กดูภาพประกอบหรือคำบรรยายภาษาอังกฤษ (ถ้ามี) เพื่อเข้าใจบริบทโดยไม่ต้องแปลเป็นภาษาไทย

  • อาจถามว่า “หนูได้ยินคำไหนคุ้น ๆ ไหม?” เพื่อกระตุ้นความสนใจ

การฟังล่วงหน้าช่วยให้เด็กไม่รู้สึกตื่นเต้นจนเกินไป และค่อย ๆ สร้างทักษะการฟังและเข้าใจภาษา

3. ฝึกพูดตามทีละประโยคช้า ๆ

เมื่อเด็กเริ่มคุ้นกับเสียง ให้เข้าสู่ขั้นตอนหลักของ Shadowing คือการพูดตาม แนะนำให้แบ่งเนื้อหาออกเป็นประโยคสั้น ๆ เพื่อไม่ให้เด็กเครียด

วิธีทำ:

  • เปิดเสียงประโยคหนึ่ง หยุด แล้วให้เด็กพูดตาม

  • เน้นการเลียนเสียงสูงต่ำ ความเร็ว และการออกเสียง โดยยังไม่จำเป็นต้องเข้าใจความหมายทั้งหมด

  • หากเด็กออกเสียงผิด ให้ช่วยพูดซ้ำอย่างอ่อนโยน

ตัวอย่าง:

  • ผู้พูด: “I see a red apple.”

  • เด็กพูดตาม: “I see a red apple.”

ควรให้กำลังใจและแก้ไขเบา ๆ เพื่อไม่ให้เด็กรู้สึกกดดัน

4. ใช้ท่าทางและภาพประกอบเพื่อเพิ่มความสนุก

เด็กเรียนรู้ได้ดีผ่านภาพและการเคลื่อนไหว การใช้ภาพและท่าทางร่วมกับการฝึก Shadowing จะช่วยให้การเรียนสนุก น่าสนใจ และจดจำง่ายขึ้น เหมือนกับการเล่นสนุก

วิธีใช้:

  • เมื่อพูด “I jump!” ให้เด็กกระโดดไปด้วย

  • เมื่อพูด “I’m happy” ให้เด็กยิ้มและชี้ที่ใบหน้าตัวเอง

  • ใช้ภาพ Flashcards หรือของเล่นช่วยประกอบคำศัพท์

การพูดตามพร้อมการกระทำจะช่วยให้เด็กจำได้แม่น และพัฒนาความเข้าใจภาษาอย่างรอบด้าน

5. สร้างนิสัยฝึกฝนทุกวันในเวลาที่เหมาะสม

การเรียนภาษาอังกฤษด้วย Shadowing ต้องอาศัยความสม่ำเสมอ โดยเฉพาะกับเด็กเล็ก ควรแบ่งเวลาเรียนสั้น ๆ และฝึกทุกวัน ดีกว่าฝึกนานแต่ไม่ต่อเนื่อง

ตารางเรียนแนะนำ:

  • ระยะเวลา: วันละ 5–10 นาที

  • เวลา: หลังอาหารเช้า ก่อนนอน หรือหลังเล่นเสร็จ

  • เป้าหมาย: เรียนเพียง 1–2 ประโยค หรือช่วงสั้น ๆ ต่อวัน

ผู้ปกครองควรมีความอดทน และฝึกต่อเนื่อง เพื่อสร้างนิสัยทางภาษาอย่างเป็นธรรมชาติ เหมือนตอนเด็กเรียนรู้ภาษาแม่

ให้เด็กฟังและดู แล้วพูดซ้ำทุกวันเพื่อเข้าใจบริบทและภาษา (ภาพ: รวบรวมจากอินเทอร์เน็ต)

ข้อควรระวังในการใช้เทคนิค Shadowing สอนภาษาอังกฤษให้เด็ก

แม้ว่าวิธี Shadowing จะเป็นเทคนิคที่มีประสิทธิภาพและใช้งานได้ง่าย แต่หากนำไปใช้ไม่ถูกวิธี อาจทำให้เด็กเกิดความยากลำบากหรือหมดความสนใจ โดยเฉพาะกับเด็กเล็ก การเรียนภาษาควรผสมผสานระหว่างวิธีที่ถูกต้อง สภาพจิตใจที่สบาย และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ต่อไปนี้คือข้อควรระวังที่สำคัญสำหรับผู้ปกครองหรือครู:

อย่าบังคับให้เด็กพูดซ้ำมากเกินไปหากยังไม่พร้อม

เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนยังไม่กล้าพูด ไม่เข้าใจเนื้อหา หรือรู้สึกไม่คุ้นกับเสียงภาษาอังกฤษ หากผู้ใหญ่เร่งให้เด็กพูดซ้ำหรือแก้ไขมากเกินไป เด็กอาจรู้สึกกดดันและเบื่อ

ควรเริ่มด้วยการให้เด็กดูและฟังผู้ใหญ่พูดเป็นตัวอย่างก่อน เมื่อรู้สึกปลอดภัยและคุ้นเคยกับเสียง เด็กจะพูดตามอย่างเป็นธรรมชาติ

เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ

เด็กมีสมาธิและความจำที่จำกัด การเรียนที่ได้ผลจึงไม่ใช่การเรียนเยอะ แต่ต้องเรียนให้ถูกต้องและมีความรู้สึกที่ดีต่อบทเรียนแต่ละบท

แทนที่จะฝึกพูด 10–15 ประโยคในหนึ่งวัน ควรฝึก 2–3 ประโยคสั้น ๆ ซ้ำหลายรอบในบริบทที่ชัดเจน จะช่วยให้เด็กจำได้ดี ออกเสียงถูก และรู้สึกว่าตนเองประสบความสำเร็จ

เลือกสื่อเสียงที่มีการออกเสียงชัดเจนและความเร็วเหมาะสม

คุณภาพของเสียงที่เด็กได้ยินมีผลโดยตรงต่อการเรียนรู้ หากเด็กได้ยินเสียงที่ไม่ชัด พูดเร็วเกินไป หรือออกเสียงไม่ถูกต้อง อาจเลียนแบบผิดและแก้ยาก

เลือกวิดีโอหรือเสียงที่ใช้สำเนียงอังกฤษแบบ American หรือ British ที่ชัดเจน น้ำเสียงนุ่มนวล และพูดไม่เร็วเกินไป เช่น Super Simple Songs, Peppa Pig, หรือ English Singsing

เรียนร่วมกับเด็ก ไม่ใช่ปล่อยให้เรียนคนเดียว

เด็กเรียนรู้ได้ดีที่สุดผ่านการมีปฏิสัมพันธ์ หากมีผู้ใหญ่ร่วมเรียนด้วย เด็กจะรู้สึกว่ามีเพื่อนและได้รับกำลังใจ

แทนที่จะปล่อยให้ดูวิดีโอเพียงลำพัง ควรร่วมพูด ร้องเพลง หรือเล่นบทบาทสมมติกับเด็ก การเรียนจะกลายเป็นกิจกรรมสนุก เด็กจะเรียนรู้เร็วขึ้นโดยไม่รู้สึกกดดัน

ฝึกทุกวัน แต่ไม่จำเป็นต้องนาน

ความต่อเนื่องสำคัญกว่าระยะเวลา เด็กเล็กไม่จำเป็นต้องเรียนวันละนาน ๆ เพียงวันละ 5–10 นาทีก็พอในการสร้างนิสัยภาษา

เลือกช่วงเวลาที่เด็กผ่อนคลาย เช่น หลังตื่นนอน หลังเล่น หรือก่อนนอน เพื่อให้การเรียนรู้เป็นธรรมชาติ

หลีกเลี่ยงการแปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย

การแปลทุกอย่างเป็นภาษาไทยจะทำให้เด็กพึ่งการแปลและไม่สามารถเข้าใจบริบทหรือคิดเป็นภาษาอังกฤษได้. ใช้ภาพ ท่าทาง หรือการแสดงสีหน้าเพื่ออธิบายความหมาย เช่น “It’s raining!” ให้ชี้ไปที่หน้าต่างหรือทำท่าฝนตก เพื่อให้เด็กเข้าใจผ่านประสบการณ์จริง

สร้างสภาพแวดล้อมภาษาอังกฤษรอบตัวเด็ก

นอกจากการเรียนในเวลาเรียนแล้ว การที่เด็กได้สัมผัสภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันจะช่วยเสริมการเรียน Shadowing ได้มาก

เปิดเพลงภาษาอังกฤษเบา ๆ ระหว่างเล่น เลือกการ์ตูนภาษาอังกฤษที่มีคำบรรยาย หรือใช้วลีง่าย ๆ เช่น “Let’s go!”, “Time to eat!”, “Good night!” สิ่งเล็ก ๆ

เหล่านี้จะทำให้ภาษาอังกฤษกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของเด็ก

เพิ่มประสิทธิภาพของวิธี Shadowing ด้วยแอปอัจฉริยะ Monkey Junior

เทคนิค Shadowing หรือการฟังและพูดตามเจ้าของภาษา ถือเป็นวิธีการเรียนภาษาอังกฤษที่เป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพสำหรับเด็กเล็ก อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เทคนิคนี้เกิดผลลัพธ์อย่างแท้จริง เด็กจำเป็นต้องได้รับการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม พร้อมด้วยเนื้อหาที่ชัดเจนและเครื่องมือที่สนับสนุนการเรียนรู้ได้อย่างตรงจุด Monkey Junior แอปเรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กตั้งแต่อายุ 0 ถึง 11 ปี คือทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด ที่จะทำให้การเรียนรู้เป็นระบบ น่าสนใจ และง่ายยิ่งกว่าที่เคย

ด้วยแผนการเรียนรู้ที่ปรับให้เหมาะสมกับอายุและระดับความสามารถของเด็ก Monkey Junior ช่วยให้เด็กพัฒนาครบทั้ง 4 ทักษะ ได้แก่ การฟัง พูด อ่าน และเขียน ในแต่ละบทเรียน เด็กจะได้ยินประโยคตัวอย่างจากเจ้าของภาษาและพูดตาม ตรงตามเทคนิค Shadowing อย่างแท้จริง นอกจากนี้ แอปยังมีการผสานเทคโนโลยีจดจำเสียงพูดอัจฉริยะ ที่ช่วยประเมินคะแนนและแนะนำให้เด็กปรับเสียงพูดได้อย่างแม่นยำ เด็กจึงไม่เพียงแต่ได้ฝึกออกเสียงเท่านั้น แต่ยังค่อย ๆ พัฒนาการตอบสนองทางภาษาอย่างเป็นธรรมชาติ

เพิ่มประสิทธิภาพของวิธี Shadowing ด้วยแอปอัจฉริยะ Monkey Junior (ภาพ: Monkey)

นอกจากนี้ บทเรียนที่มีภาพประกอบ วิดีโอ และเกมแบบโต้ตอบ ยังช่วยให้เด็กจดจำเนื้อหาได้ง่ายและเรียนรู้อย่างมีความสุข ระบบสะสมรางวัล และรายงานความคืบหน้าอย่างละเอียด ยังช่วยให้ผู้ปกครองสามารถติดตามพัฒนาการของลูกได้อย่างใกล้ชิด

สมัครใช้งาน Monkey Junior วันนี้ เพื่อให้ลูกของคุณได้ทดลองเรียนภาษาอังกฤษที่บ้านฟรี 7 วัน พร้อมฝึกออกเสียงให้ถูกต้องผ่านเทคนิค Shadowing ที่มีประสิทธิภาพและสนุกสนาน

บทสรุป

เทคนิค Shadowing เป็นแนวทางการเรียนรู้ภาษาอังกฤษที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กเล็ก เพราะสามารถฝึกฝนการฟังและพูดอย่างเป็นธรรมชาติได้ เมื่อใช้อย่างถูกวิธีและรวมเข้ากับเครื่องมือการเรียนรู้ที่เหมาะสม Shadowing จะช่วยให้เด็กออกเสียงได้อย่างถูกต้อง สื่อสารได้อย่างมั่นใจ และรักในการเรียนภาษาอังกฤษในทุก ๆ วัน

ข้อมูลในบทความนี้ถูกรวบรวมขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการอ้างอิงเท่านั้น และอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า กรุณาตรวจสอบข้อมูลผ่านช่องทางอย่างเป็นทางการ หรือติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงเพื่อรับทราบข้อมูลล่าสุด

บทความล่าสุด

ลงทะเบียนรับคำปรึกษา

และโปรโมชั่น Monkey Stories