ประโยคความรวมคืออะไร? คำจำกัดความและตัวอย่าง
เคล็ดลับการเรียนรู้ (TH)

ประโยคความรวมคืออะไร? คำจำกัดความและตัวอย่าง

การปรึกษาบทความ:

Hoàng Mỹ Hạnh

Hoàng Mỹ Hạnh

Thạc sĩ Ngôn ngữ - Chuyên gia Giáo dục sớm

ผู้เขียน: Ngân Hà

วันที่อัปเดต: 06/11/2025

เนื้อหาหลัก

ประโยคความรวมคือหนึ่งในโครงสร้างประโยคพื้นฐานที่สำคัญในภาษาอังกฤษ ซึ่งช่วยให้ผู้เรียนสามารถเชื่อมโยงความคิดหลายประโยคให้กลายเป็นประโยคที่ชัดเจนและลื่นไหลมากขึ้น การเข้าใจประโยคความรวมไม่เพียงช่วยให้เขียนได้ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ แต่ยังเพิ่มความเป็นธรรมชาติในการสื่อสารอีกด้วย

ประโยคความรวมคืออะไร?

ประโยคความรวมคือประโยคที่เชื่อมประโยคอิสระสองประโยคขึ้นไปเข้าด้วยกัน จุดสำคัญอยู่ที่ “ประโยคอิสระ” ซึ่งหมายถึงประโยคที่มีทั้งประธานและกริยา ทำให้สามารถเป็นประโยคสมบูรณ์ได้ด้วยตัวเอง กล่าวโดยสรุป ประโยคความรวมคือการนำประโยคที่เกี่ยวข้องกันมารวมเป็นประโยคเดียว

  • ประโยคความเดียว: My name is Montoya. I’m here for the interview.

  • ประโยคความรวม: My name is Montoya, and I’m here for the interview.

  • ประโยคความรวม: My name is Montoya; I’m here for the interview.

โครงสร้างของประโยคความรวม

โดยทั่วไปประโยคความรวมจะใช้เครื่องหมายจุลภาค (,) ตามด้วยคำสันธาน (coordinating conjunction) ซึ่งเป็นคำสั้น ๆ ที่เชื่อมคำหรือวลีเข้าด้วยกันในประโยค คุณอาจจำคำสันธานเหล่านี้ได้จากตัวย่อ FANBOYS: for, and, nor, but, or, yet, และ so

นอกจากนี้ประโยคความรวมยังสามารถใช้เครื่องหมายอัฒภาค (;) เพื่อเชื่อมประโยคอิสระทั้งสอง โดยไม่จำเป็นต้องใช้คำสันธานก็ได้

ลองดูตัวอย่างต่อไปนี้เพื่อเข้าใจวิธีการทำงานของประโยคความรวม ด้านล่างนี้คือประโยคง่าย ๆ สองประโยคที่สมบูรณ์ ซึ่งแต่ละประโยคมีประธานและกริยาเป็นของตนเอง: 

“I have a pet iguana. His name is Fluffy.”

  1. เพื่อรวมให้เป็นประโยคความรวม เราเพียงเพิ่มเครื่องหมายจุลภาคและคำสันธาน “and”: I have a pet iguana, and his name is Fluffy.

  2. หรือเราสามารถสร้างประโยคความรวมได้โดยใช้เพียงเครื่องหมายอัฒภาค ซึ่งประโยคก็ยังคงถูกต้อง: I have a pet iguana; his name is Fluffy.

  3. แม้ว่าทั้งสองประโยคจะพูดถึงเรื่องเดียวกัน แต่ประธานของแต่ละประโยคอิสระนั้นแตกต่างกัน: ประธานของประโยคแรกคือ “I” ส่วนประธานของประโยคที่สองคือ “name” นี่คือเหตุผลที่มันถูกจัดว่าเป็นประโยคอิสระ และประโยคจะถือเป็นประโยคความรวมก็ต่อเมื่อประกอบด้วยประโยคอิสระตั้งแต่สองประโยคขึ้นไป ตัวอย่างเช่น ประโยคด้านล่างนี้ไม่ใช่ประโยคความรวม: I have a pet iguana whose name is Fluffy.

ตัวอย่างของประโยคความรวม

ลองดูตัวอย่างเพิ่มเติมจากนักเขียนชื่อดังในประวัติศาสตร์:

  1. “Nature does not hurry, yet everything is accomplished.” -Lao Tzu

  2. “Be yourself; everyone else is already taken.” -Oscar Wilde

  3. “You will face many defeats in life, but never let yourself be defeated.” -Maya Angelou

โครงสร้างของประโยคความรวม (ภาพ: อินเทอร์เน็ต)

กฎของประโยคความรวม

1. ประโยคความรวมจะต้องมีประธานอย่างน้อยสองตัวและกริยาอย่างน้อยสองตัว

หากทั้งสองอนุประโยคอิสระมีประธานเดียวกัน จะต้องระบุประธานนั้นซ้ำอีกครั้งตามตัวอย่างด้านล่าง เพื่อให้ประโยคถือว่าเป็นประโยคความรวม:

“I alone cannot change the world, but I can cast a stone across the water to create many ripples.” -Mother Teresa

2. ประโยคที่มีสองประธานแต่มีเพียงกริยาเดียว หรือมีประธานเดียวแต่มีสองกริยา ไม่ถือเป็นประโยคความรวม

  • ไม่ผสม: Adelaide and I sing our duet tonight.

  • ไม่ผสม: Adelaide sings and dances at the same time.

แต่ละประโยคมีเพียงอนุประโยคอิสระเดียว อย่างไรก็ตาม คุณสามารถทำให้มันกลายเป็นประโยคความรวมได้โดยการเพิ่มอนุประโยคอิสระใหม่เข้าไป

  • สารประกอบ: Adelaide sings and dances at the same time, but I can only do one thing at once.

3. ประโยคคำสั่ง (imperative sentence) มักไม่แสดงประธาน เพราะประธานถูกสื่อโดยนัย

ซึ่งจะนำไปสู่ประโยคความรวมเช่นตัวอย่างนี้ โดยอนุประโยคอิสระแรกมีประธานโดยนัยคือ “คุณ”:

Get me some water, or the fire will spread!

เครื่องหมายวรรคตอนในประโยคความรวม

เมื่อสร้างประโยคความรวม ควรจดจำกฎเหล่านี้ไว้:

  • วางเครื่องหมายจุลภาค (,) ก่อนคำสันธานประสาน (coordinating conjunction)

  • หากไม่ได้ใช้คำสันธาน ให้ใช้เครื่องหมายอัฒภาค (;) ระหว่างอนุประโยค

  • และตามปกติ ให้ขึ้นต้นอนุประโยคอิสระที่สองด้วยตัวอักษรเล็ก เพราะประโยคความรวมถือเป็นประโยคเดียว ตัวอักษรตัวแรกของอนุประโยคแรกเท่านั้นที่ใช้ตัวพิมพ์ใหญ่

ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในประโยคความรวม

ประโยคความรวมอาจทำให้สับสนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ควรระวังข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้ง่ายต่อไปนี้

1. ประโยควิ่งยาว (Run-on sentences)

ประโยควิ่งยาวคือข้อผิดพลาดทั่วไปในการเขียนภาษาอังกฤษ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อประโยคเชื่อมต่ออนุประโยคเข้าด้วยกันอย่างไม่ถูกต้อง ในการเขียน ประโยควิ่งยาวไม่เพียงผิดหลักไวยากรณ์เท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้อ่านเข้าใจได้ยากอีกด้วย

เพื่อหลีกเลี่ยงทั้งประโยควิ่งยาวและประโยคความรวมที่ยาวและซับซ้อนเกินไป ควรจำกัดจำนวนอนุประโยคในหนึ่งประโยคไว้ที่สองหรือสามอนุประโยค หากจำเป็นต้องมีมากกว่านั้น ควรทำให้แต่ละอนุประโยคสั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้โดยการตัดคำที่ไม่จำเป็นออก

I woke up, the clock said 9:00 so I panicked and took a shower, got ready, ate breakfast, and ran out the door, but then I looked at my phone, it said it was actually Saturday and I had the day off.

I woke up, and the clock said 9:00, so I panicked. I took a shower, got ready, ate breakfast, and ran out the door. Then I looked at my phone; it said it was actually Saturday. I had the day off.

โปรดจำไว้ว่า ประโยคสั้นจะเข้าใจได้ง่ายกว่าและช่วยให้เนื้อหามีจังหวะเร็วขึ้น การสลับระหว่างประโยคสั้นและยาวจะช่วยให้การเขียนของคุณมีจังหวะและดึงดูดความสนใจของผู้อ่านได้ดีขึ้น

ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในประโยคความรวม (ภาพ: อินเทอร์เน็ต)

2. การเชื่อมประโยคที่ไม่เกี่ยวข้องกัน

แม้ว่าคุณจะมีสองอนุประโยคอิสระ แต่คุณไม่ควรเชื่อมต่อพวกมันเข้าด้วยกันหากไม่มีความสัมพันธ์กัน อนุประโยคทั้งสองควรอธิบายซึ่งกันและกันหรือเพิ่มรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง มิฉะนั้นควรแยกออกเป็นสองประโยคต่างหากจะดีกว่า

I couldn’t sleep that night, but there would be breakfast at the school tomorrow.

แน่นอนว่าคุณสามารถเขียนใหม่ให้แสดงความเชื่อมโยงระหว่างอนุประโยคได้ แล้วจึงเชื่อมต่อกันเป็นประโยคความรวม

I couldn’t sleep that night, but it was reassuring to know there would be breakfast at the school tomorrow.

Monkey Junior - เส้นทางการเรียนรู้ภาษาอังกฤษที่ครอบคลุมสำหรับเด็ก

เริ่มต้นการเรียนภาษาอังกฤษอย่างมั่นใจกับ Monkey Junior แอปที่ช่วยให้เด็กเข้าใจคำศัพท์ พยัญชนะ และเสียงพื้นฐานของภาษาอังกฤษได้อย่างเป็นธรรมชาติ ผ่านภาพ เสียง และวิดีโอที่ดึงดูดความสนใจ เด็กจะได้เรียนรู้แบบ “เล่นไปเรียนไป” โดยไม่รู้สึกเบื่อ Monkey Junior ใช้วิธีสอนที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก เช่น Phonics และ Glenn Doman เพื่อพัฒนาเด็กตั้งแต่ระดับเริ่มต้น เด็กจะได้สร้างพื้นฐานภาษาอังกฤษที่แข็งแรง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการสื่อสารในอนาคต

รับส่วนลด 50% ทันที!

Monkey Junior - เส้นทางการเรียนรู้ภาษาอังกฤษที่ครอบคลุมสำหรับเด็ก

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับประโยคความรวม

1. ประโยคความรวมคืออะไร?

ประโยคความรวมคือประโยคที่มีสองอนุประโยคอิสระขึ้นไป อนุประโยคอิสระประกอบด้วยประธานและกริยา ทำให้เป็นความคิดที่สมบูรณ์ ประโยคความรวมจะรวมแนวคิดที่เกี่ยวข้องกันแต่แยกกันออกมาไว้ในประโยคเดียวที่สอดคล้องกัน

2. จะสร้างประโยคความรวมได้อย่างไร?

มีสองวิธีในการสร้างประโยคความรวม วิธีแรกคือแยกอนุประโยคอิสระด้วยเครื่องหมายจุลภาค ตามด้วยคำสันธานเชื่อม เช่น and, but, or, or (I am tired, but I will finish my work.) วิธีที่สองคือใช้เครื่องหมายอัฒภาคเชื่อมระหว่างอนุประโยคโดยไม่ต้องใช้คำสันธาน (I am tired; I will finish my work.)

3. ความแตกต่างระหว่างประโยคความรวมกับประโยคซับซ้อนคืออะไร?

ในขณะที่ประโยคความรวมใช้สองอนุประโยคอิสระขึ้นไป ประโยคซับซ้อนจะมีเพียงอนุประโยคอิสระหนึ่งอนุประโยคและอย่างน้อยหนึ่งอนุประโยคย่อย อนุประโยคย่อยไม่สามารถยืนเป็นประโยคได้ด้วยตนเองเหมือนอนุประโยคอิสระ ประโยคซับซ้อนใช้คำสันธานรอง (subordinating conjunctions) ในขณะที่ประโยคความรวมใช้คำสันธานหลัก (coordinating conjunctions)

4. ประโยคสามารถเป็นได้ทั้งประโยคความรวมและประโยคซับซ้อนไหม?

ได้ ประโยคประเภทนี้เรียกว่า compound-complex sentence ซึ่งเป็นประโยคที่รวมอย่างน้อยสองอนุประโยคอิสระและอย่างน้อยหนึ่งอนุประโยคย่อยเข้าไว้ด้วยกัน (After we finished our homework, I watched TV and my brother played video games.)

5. การใช้ประโยคความรวมในการเขียนคืออะไร?

ประโยคความรวมช่วยเชื่อมโยงแนวคิดที่เกี่ยวข้องกัน ทำให้เนื้อหาไหลลื่นและเพิ่มความหลากหลายในการเขียน การรวมอนุประโยคอิสระสองประโยคเข้าด้วยกันทำให้การเขียนดูมีชีวิตชีวา น่าสนใจ และยังช่วยลดความซ้ำซากจากการใช้ประโยคง่ายซ้ำ ๆ อีกด้วย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับประโยคความรวม (ภาพ: อินเทอร์เน็ต)

เมื่อเข้าใจโครงสร้างและหลักการใช้ของประโยคความรวมแล้ว ผู้เรียนจะสามารถสร้างประโยคที่มีความเชื่อมโยงและแสดงความคิดได้ครบถ้วนมากขึ้น การฝึกเขียนและอ่านประโยคความรวมเป็นประจำจะช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของคุณให้ก้าวหน้าอย่างเห็นได้ชัด

ข้อมูลในบทความนี้ถูกรวบรวมขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการอ้างอิงเท่านั้น และอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า กรุณาตรวจสอบข้อมูลผ่านช่องทางอย่างเป็นทางการ หรือติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงเพื่อรับทราบข้อมูลล่าสุด

ลงทะเบียนรับคำปรึกษา

และโปรโมชั่น Monkey Stories